วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

ครู คำพูน บุญทวี..


ประวัติ
คำพูน บุญทวี เดิมชื่อ คูน เกิดเมื่อ 26 มิถุนายน พ.ศ.2471
ที่เกิดที่บ้านทรายมูล ตำบลทรายมูล จังหวัดยโสธร (ขณะนั้นยังขึ้นอยู่กับ จังหวัดอุบลณาชธานี เป็นบุตรคนโตจากทั้งหมด 7 คนของนายสนิทและนางลุน บุญทวี
คำพูนเรียนหนังสือที่บ้านเกิดจนจบชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6 ที่โรงเรียนปรีชาบันฑิต จากนั้นจึงเริ่มทำงานหลายอย่างในจังหวัดภาคอีสาน เป็นหัวหน้าคณะรำวง และขายยาเร่ ต่อมาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นกรรมกรรับจ้างรายวันที่ท่าเรือคลองเตย เป็นคนเลี้ยงม้าแข่ง เป็นสารถีสามล้อ จนกระทั่งสอบเป็นครูได้บรรจุที่ภาคใต้ สอนหนังสืออยู่ 11 ปี จึงเปลี่ยนไปเป็นผู้คุมเรือนจำ ต่อมาแต่งงานกับ นางประพิศ ณ พัทลุง เมื่อ พ.ศ. 2504 มีบุตร 6 คน แล้วลาออกมาจากงานราชการนี้เมื่ออายุได้ 40 เศษๆ

การทำงาน
เริ่มเขียนหนังสือครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2513 เมื่อครั้งยังเป็นผู้คุม ตอนนั้นมีปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัว เขาจึงมุมานะอ่านหนังสือ และเขียนเรื่องสั้น เรื่องสั้นเรื่องแรกที่เขาเขียน คือ "ความรักในเหวลึก" ส่งไปที่นิตยสาร ฟ้าเมืองไทย ของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ อาจินต์ ปัญจพรรค์เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น "นิทานลูกทุ่ง" พร้อมทั้งสนับสนุนให้เขาเขียนหนังสือต่อไป เขาจึงเขียนนวนิยายเรื่องแรกคือ มนุษย์ 100 คุก

จากนั้นก็เขียนเรื่อยมา คุณครูจึงกลายเป็นนักเขียนนวนิยาย เรื่องสั้นและสารคดี หนังสือที่ได้รับรางวัลได้แก่
ลูกอีสาน ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทนวนิยาย จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2519 และได้รับรางวัล ซีไรท์ เมื่อ พ.ศ. 2522 เป็นผลงานที่ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ ได้รับคัดเลือกเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาระดับมัธยมปลาย ลูกอิสาน ได้รับการแปลภาษาต่างประเทศหลายภาษา เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส
นายฮ้อยทมิฬได้รับรางวัลชมเชย ประเภทนวนิยายจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2520 หลังจากนั้นเขาจึงลาออกจากผู้คุมมาเขียนหนังสือเป็นอาชีพ
เมื่อภรรยาคนแรกเสียชีวิต เขาจึงมีภรรยาใหม่ ชื่อ ลันนา เจริญสิทธิชัย ซึ่งภายหลังได้เขียนนวนิยายเรื่อง "เจ๊กบ้านนอก" โดยใช้นามปากกาว่า กิมหลั่น และร่วมกันทำสำนักพิมพ์โป๊ยเซียน เพื่อพิมพ์หนังสือของครอบครัว

ที่เอาประวัติท่านมาเขียนใน Blog เพราะมีครั้งหนึ่งตอนนั้นผมได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง วัดๆๆไรนะ..? วันนั้น หลังจากที่ฉันเพลเสร็จจึงเข้ามาในกุฎิ ...มันว่างอ่ะครับ ไม่มีอะไรทำ และ..ด้วยความที่เป็นคนอยากรู้อยากเห็น (เสือกเรื่องของชาวบ้านชางช่องเค้าอ่ะครับ) จึงเก็บหนังสื่อในตู้มาอ่าน..ช่วงนั้นเป็นช่วงออกพรรษาพอดี (ว่างๆ) เลยไปสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง อ่านชื่อเรื่องที่แรกมันก็ทำให้ผมมีความรู้สึก..หึกเหิมขึ้นมาทันที นักเลงริมฝั่งโขง โอ้โห่..นักเลงริมฝั่งในความคิดผมนึกว่าคงจะเป็นหนังสื่อเกี่ยวกับผจญภัยของหนุ่มอีสานคนหนึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่แบบ บู้..ล้างผลาญ...สู้ๆๆย๊ากๆๆ..เอ็กซ์ๆๆ...ฮ่าๆ.(บ้า..นะเนี๊ยเรา เป็นเอามากด้วย)

---> เดี๋ยวมาต่อนะครับ...ฮ่าวๆๆๆ ง่วง...(ขอนอนสักงีบ)

ฟังเพลงเย็นๆ กับ ศ.

ผู้ติดตาม

ฟังเพลงเย็นๆครับผม