วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553
วิ่งตามผู้ชาย.......แรดจริงๆ



I got this Hi5 Layout from skin-hi5.blogspot.com
ฮาๆๆ ครับคลายเครียดกันหน่อย..อากาศก็ร้อนๆๆอย่าเครียดเลยครับ
วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553
2คำก็เกรียน 3คำก็เกรียน
อันว่าเกรี ยน นั้นมีอยู่ ช่วงวัยรุ่น
มัวหมกมุ่น จนครุ่นคิด จิตฟุ่งซ่าน
กิริยา และวาจา ส่อสัน ดาน
อันธพาล เที่ยวระราน ด่าผู้คน
ตอนเขาเรียน มันก็โดด มาเล่นเกม
สุขเกษม เปรมปรี ข้ามิสน
แม้น พ่ollม่ บุพการี จักยากจน
มิกังวล เพราะข้านั้น คือพันธุ์เกรี ยน
แต่ ละวัน ตัวมันนั้น อยู่ร้านเนต
เล่นเกม เสร็จ ก็เตร็ดเตร่ อยู่ตามห้าง
ใช้ ชีวิต ให้หมดวัน ไร้หนทาง
อนาคต จักร่วมสร้าง ชาติอัปจน
อันบางตัว มีแววชั่ว แต่แบเบาะ
เที่ยวปาก เปราะ สร้างศัตรู ทุกแห่งหน
พอพบเจอ ตัวจริงแท้ แต่ละคน
โถไอฅน นึกว่าแน่ ที่แท้เกรี ยน
บางผู้นั้น ตัวก็เล็ก เท่าลูกหมา
จะ ปากกล้า ก็จำเพาะ ในหมู่มาก
พออยู่ตัว คนเดียวนั้น ก็หงอคราง
ดีแต่ สร้าง วีรกรรม ระ ยำ ชน
อันเด็กเกรี ยน ทั่วทั้งหลาย พี่ขออย่าง
จง หยุดสร้าง ชื่อเสียเถิด จะเกิดผล
พี่ เตือนแล้ว ขอให้น้อง แต่ละคน
หยุด ซักหน ก่อนเจอส้น กระทืบเอย...
พอหอมปากหอมคอ (บางครั้งชีวิตจะไปหลักการกับมันซะทุกอย่างก็หน้าเบื่อ)
วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553
อากาศก็ร้อน..ค๊นนนก็ร้อนนน (กับแนวคิดง่ายๆที่เราก็ ช่วยโลกได้)
อากาศก็ร้อน..ค๊นนนก็ร้อนนน
อากาศร้อนจัดๆ แทนที่จะแก้ด้วยการเปิดแอร์ทั่วบ้าน เพิ่มความร้อนให้บรรยากาศของโลกเข้าไปอีก ลองหาวิธีคลายความเครียด คลายร้อนด้วยอาหารกินดูบ้าง
ในฤดูร้อน คนโบราณที่ยังไม่รู้จักเครื่องปรับอาหารเขาจะมีวิธีคลายร้อน เท่าที่เรารู้กันก็ การนุ่งห่มผ้าฝ้าย หรือสมัยก่อนก็ไม่ต้องใส่เสื้อ ใช้พัดใบลานโบกไล่ความร้อนหรือ
ไม่เช่นนั้นก็อาบน้ำประดินสอพองให้เย็นลง แต่เท่านั้นยังไม่พอ คนไทยยังมีอาหารหน้าร้อนรับประทานเพื่อดับความร้อนด้วยเช่น ข้าวแช่ นี่เป็นอาหารของชาววังโดยเฉพาะ การเอาข้าว
ใส่น้ำลอยดอกมะลิใส่น้ำแข็งรับประทานกับเครื่องแนมนั้นคลายร้อนได้-แต่สมัยก่อนชาวบ้านไม่มีน้ำแข็งชาวบั้นจึงรับประทานปลาย่างแตงโม ยำแตงกว่า ต้มฟัก อาศัยความฉ่ำของน้ำแตงกวาหรือฟักมาคลายร้อน
รับประทานแกงส้มซดน้ำแกงเข้าไปเพิ่มน้ำในร่างกายให้ช่วยระบายความร้อนออกรับประทานต้มโคล้งเพื่อใช้หอมแดงมาเพื่อขับเหงื่อ
สำหรับคนสมัยใหม่ บิ๊ก ศ.ก็มีวิธีไอเดียใหม่ๆมาแนะนำ เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารคลายร้อนกัน
วิธีที่1 รับประทานอาหารไทยๆ ดีกว่าอาหารฝรั่ง
อย่างไร รึ .... เมื่ออากาศร้อนจัดๆอาหารจะต้องมีไขมันต่ำให้คลอลีนมากกว่าข้าว ผักผลไม้ถึง 2เท่า ตัวหากเรารับประทานอาหารมันๆ ร่างกายจะร้อนรุ่ม อากาศบ้านเรานะ..เหมือนบ้านฝรั่งซะที่ไหนล่ะร้อนนนนตับแตกยิ่งเป็นช่วงนี้อยู่ที่ไหนก็ร้อนไปหมด แต่ถ้าหากอากาศก็ยิ่งร้อนอยู่แล้วเพื่อนๆขืนรับประทานพิซซ่า ลาซานย่า ซีส ดื่มนม นมเปรี้ยว ยิ่งทำให้ร้อนกว่าเดิมสู้แล้วเรารับประทานอาหารไทยๆบ้านเราดีกว่า อย่างส้มตำ(เอ้า..บางคนทักขึ้นมา บ้าส้มตำอ่ะนะ คลายร้อน..)นอกจากนี้ยังมีน้ำพริก ยำ ต้มยำ ฯลฯ อาหารเหล่านี้แคลอรีต่ำรับประทานแล้วจะไม่ร้อน ..
พึงสังวรว่า การรับประทานอาหารข้ามวัฒนธรรมยามร้อน(ด้วยอีก)จะทำให้ร้อนจัดยิ่งขึ้น
(มีอีกหลายวิธี อีกหลายอย่าง แต่ทว่า กระผม ขี้เกรียจพิมพ์ ) หากเพื่อนๆสนใจอยากทราบว่า อาหารคลายร้อนนี้มันมีอะไรบ้าง นอกจากอาหารแล้วผลไม้ได้ไหม(บิ๊ก ศ. ขอบอกเลยว่า มีครับ ผลไม้ของไทยเราก็ช่วยคลายร้อนได้) เพื่อนๆสามารถค้นหาข้อมูลใน Google ในหัวข้ออาหารคลายร้อนได้ อีกอย่างจะเป็นการดีไหมถ้าเราช่วยโลกด้วยในเวลาเดียวกัน แล้วยังได้ประโยชน์ แถมอิ่มท้องด้วย
สำหรับวันนี้ บิ๊ก ศ.ก็ต้อนกล่าวคำว่า ซำบายดี ครับ
(ที่มาจาก วรสาร SME Inspired ของ K EXCELLENCE ธนาคารกสิกรไทย VOL.3/NO.10/APRIL-JUNE 2009)
ลูกเทวดา หรือ..(ลำนำชีวิต..ของคนนอนข้างทาง) ตอนที่ 1
ลูกเทวดา หรือ..
เช้าวันหนึ่งที่บ้าน ของบิ๊ก ศ.ในขณะที่กระผมกำลังหลับ..สะไหล อยู่นั้นเอง(มันเหมือนมีเสียงๆหนึ่งดัง เบาอยู่ในหูของผม ....ลูกชาย คนนี้ เดี่ยวนี้ มัน มาดแมน..) ยังนี้อ่ะ ดังอยู่ประมาณพักหนึ่ง คือตอนนั้นคงจะเป็นความรู้สึกกึ่งหลับกึ่งจะตื่น เสียงนั้นดังอยู่พัก ถัดมาจากนั้นไม่กี่วินาที ที่นี้ผมเริ่มจะมี สติ สะตัง ขึ้นมาแล้ว แถมบ่นพึมพำใน ใจ.....โอย มันจาอารัย กัน นักกันหนาว่ะ.....เฮ่อ..เซ็งโคตรเลย...ที่นี้ดังเลยครับมาแรงเลยที่นี้..ลูกเทวดา ลูกฮักลูกแพง ลูกคำ ลูกคูณ ....โอยยยใครมันแต่งเพลงนี้ความจริงมันไม่ได้ทำให้ผมสะทกสะท้านอะไรหรอก ปัญหาก็คือมันมาเปิดทำ_+|_##$%#%#$%$#^%&^* อารัยตอนนี้กูจานอน..พออาบน้ำล้างหน้าแปลงฟันเสร็จมาถามคนข้างบ้านก็เลยได้รู้มันเพลงของ..น้าสนุก สิงห์มาตร Single ใหม่ของน้าแก..แถมคนที่ผมไปถามก็เป็นน้าที่รู้จักกับผมเป็นอย่างดี แก่เลยบอกผมก่อนจะเดินมากลับมาบ้าน ว่า มึงอ่ะ ไอ้ลูกเทวดา..ผมนึกในใจ ตูมีปีก รึงัย ว่ะ แต่กูก็บินไม่ได้นี้หน่า ลองๆจับใจความของเพลงก็เลยได้รู้ซะทีว่า เพลงมันบอกถึงลูกชายคนหนึ่งไม่สิ คนเขียนคงจะอยากให้ เด็กวัยรุ่นที่ฟังเพลงนนี้ แล้วคิดได้..อะไรประมาณนนี้ โอ..แต่เชื่อเหอะผมก็ไม่ใช่คนกงคนแก่ที่ไหนผมก็เปงวัยรุ่นเหมือนกันนี้แระ มังไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก มากกว่านั้นแทนที่จาหยุดคิดยิ่งทำให้มังเปิดดังๆ แล้วโยก ใส่ ซะนี้
ผู้ใหญ่บอกเด็กถึงโทษภัยที่เด็กกำลังจะเจอ..(ในอนาคตอันใกล้)และไม่ใช่เรื่องที่พูดให้ฟังไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีหรือเรื่องร้ายคนที่พูดมาให้ฟังก็ล้วนๆโดนกันมาทั้ง ทั้งนี้ก็หวังให้เด็กฟังแล้วเป็นอุธาหรณ์สอนใจเชื่อไหมครับถ้าลองย้อนเวลากลับไป สมัยครั้งกระโน้นนนนนนนนผู้ใหญ่ที่ว่านี้แระ สมัยไหมนั้นท่านก็เปงเด็กหนุ่มเหมือนพวกเรานี้แระ และก็มีอีกท่านหนึ่งซึ้งปัจจุบัน ท่านที่กล่าวมานนี้อาจจะเป็นคุณตาหรือคุณยาย ท่านก็เคยบอกท่านผู้ใหญ่เหมือนกัน..(ทีนี้ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงที่สิ่งที่คุณตาคุณยายบอกท่านผู้ใหญ่ในวันนั้นมีท่านผู้ใหญ่สักกี่คนกันเล่าที่ประพฤติปฏิบัติตาม) บางคนอาจจะคิดว่าอ้าววเราพูดอย่างนี้ไม่ถูกนะ มันเหมือนเป็นการดูถูกคนที่เค้าอุตสาห์หวังดีกับเรา แต่เชื่อเถอะครับที่กระผมเล่ามาทั้งหมดนี้หาใช่การทำตัวเป็นเด็กหัวรั่นหรือทะลึ่งดึงดันไร้ความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่ ให้คิดซะว่าเวเทนี้เป็นเวทีสนทนาพาทีถึงเรื่องการเป็นบุคคลคนหนึ่งไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นคนที่ดีในสังคมหากแต่เป็นคนหนึ่งที่อยากให้สังคมสงบสุขก็แค่นั้น...ถามว่าแล้วที่ผู้ใหญ่หลายๆท่านบอกไม่ดีรึ ดีครับผมตอบแบบฉะฉานเลยดีมากๆ และมันจะดีที่สุดถ้าคนที่นั่งฟังท่านเล่าในวันนั้นนำคำที่ได้ฟังในวันนี้ไปประพฤติปฏิบัติ คิดเป็นเปอร์เซ็นมีไม่กี่สิบเปอร์เซ็นที่เด็กวัยรุ่นทั่วโลกจำแล้วนำเอาไปทำทุกๆขั้นตอน เพราะอะไรเหล่าถึงเป็นเช่น ก็เพราะคนไง คนเรามันไม่เหมือนกันถูกตรงที่ อาจจะเกิดมาจากท้องแม่เดียวกัน แต่ทว่านิสัยแต่ละคนต่างกันคนละขั่ว นี้ลองคิดดูสิถ้าเป็นคนที่ไม่ใช่พี่น้อง มันจะขนาดไหน คนบอกน่ะก็บอกได้ไม่ผิดส่วนคนฟังถามว่าถ้าไม่รับเอาสิ่งที่คนคนนั้นพูดละจะผิดไหม ไม่ผิดครับเพราะท้ายที่สุดแล้วที่ปรึกษาด้านกรองข้อมูลคนสุดก็คือคุณ เพราะไม่ใช่ใครที่ไหนที่จะเอาสิ่งที่คุณจดจำมาไปใช้ ก็คือคุณแล้ว สิ่งนั้นคุณคิดว่าคุณทำได้รึเปล่าคุณทำแล้วมันมีความสุขหรือเปล่า มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ทุกอย่างเมื่อได้กระทำในสิ่งที่มันย่อมจะได้ผลดีและเกิดประโยชน์สูงสุด ยกตัวอย่างง่ายๆต้นไม้ต้นหนึ่งโดยธรรมชาติต้นไม้อะไรก็แล้วการเจริญเติมโตของเค้าต้องสูงขึ้นยาวขึ้นเราหาเชือก สักเส้นไปผูก สิ แล้วก็ดึงต้นไม้นั้นให้โค้ง นั้นอาจจะเป็นความต้องการของเราว่าจะทำให้ต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นไม้พิเศษพอโตแล้วไม่เหมือนต้นอื่นมีลักษณะโค้งงอ น้อยหนักที่ต้นไม้นั้นพอโตแล้วจะสวย น้อยหนักที่ต้นไม้เหล่านั้นจะเติบโตสวยงามและบางทีอาจจะไม่โตเลยด้วยซ้ำ
บางคนรู้ เข้าใจ บอกได้ แต่ให้ทำจริงๆก็ทำไม่ได้ บางคนทำได้เป็นบางอย่าง บางคนทำได้อย่างดีทำได้ทุกขั้นตอนคุณคงจะสงสัยแล้วกระผมเป็นใครเป็นเทพ รึ หรือคนดีที่โลกรอ..เปล่าเลยผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สุดแสนธรรมดาไม่มีอะไรวิเศษ บางเรื่องที่ผมเขียนทุกเรื่องก็ล้วนมาจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอะเจอ ได้จากการสนทนาระหว่างคนหนึ่งกับอีกคน มาจนถึงบัดนี้ผมเองก็ยังเป็น นายศ.สาลาคนเดิมไม่ได้รับรางวัลนักเขียนดีเด่นหรือรางวัลลูกกตัญญูสักอย่าง ยังคงโดนแม่ดุ โดนอาจารย์ดุ โดนปัญหาต่างๆนาๆถาโถมเข้าในชีวิตทุกวัน บางวันร้องไห้ บางวันเมาหัวราน้ำ บางวันก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เอ้า...แล้วสิ่งที่ได้เล่ามาทั้งหมดก็ไม่ได้ทำอะไรให้นายมีชีวิตดีขึ้นเลยนี้ โอ..ไร้สาระ ถามคุณสักอย่างเถอะแล้วสิ่งไหนเล่าที่คุณว่ามันคือความสุขล่ะสิ่งไหนเล่าคือสิ่งสุดยอดที่มนุษย์ต้องการ ที่ว่าความสุข มันไม่ได้มาจากการเป็นมหาเศรษฐี หรอกไม่ได้มาจากการเป็นคนที่คนทั้งโลกรู้จักหรอก หากแต่มันเป็นสิ่งที่คุณน่ะ ทำแล้วคุณเองรู้ว่านี้ล่ะ นี้ล่ะสิ่งที่เราชอบเราทำแล้วมีความสุข มันอาจไม่ได้มาจากการที่เราฟังจากใครเค้ามา แต่มันอาจมาจากการที่ เจอะเจออารัยต่อมิอารัย..ทุกๆวัน ที่มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปสอนเรา ว่านี้แระคือสิ่งที่เราอยากทำ นี้แระสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขกว่าสิ่งไหนๆ
มันไม่ได้ผิดที่คนคนหนึ่งจะผิดพลาดในชีวิต มีร้องไห้เสียน้ำตาในบางครั้งบางเวลา เราไม่ใช่เทพไม่ใช่ท่อนไม้ท่อนซุงนิ ที่พอเวลาเจอะปัญหาหนักจะได้เชยๆ ตอนเสียใจก็เสียใจ เราก็คงต้องปล่อยมัน พอตอนมีความสุขเราก็สุขให้เต็มที่ มันไม่เสียใจไปตลอดชีวิตหรอกและมันก็จะไม่Happyตลอดไปเหมือนกัน ขอเพียงวันนี้เรารู้ว่า เราทำอะไรอยู่และเราทำเพื่อใคร...