วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553
คนทะลึ่งถาม - คนลามกตอบ..(ฮาๆๆ จาก Goo...Gle)
คนทะลึ่งถาม คนลามกตอบ..
ถาม : รูอะไรเอ่ย ทำให้เรามีความสุข
ตอบ : รูเยิบ (เลิฟยู)
ถาม : อะไรเอ่ย เข้าไปมีเสียง ออกมามีเสียง ยิ่งเข้าลึกยิ่งมีน้ำ
ตอบ : 7-eleven
ถาม : บนก้อขน ล่างก้อขน ดึกดื่น สัปดน เอาขนมาชนกาน
ตอบ : ขนตางัย
ถาม : นั่งยองๆ กระเด้าๆ ถ้าไม่เข้า เอามือคลำดู
ตอบ : คนรับมีด
ถาม : ขึ้นต้นด้วย คอควาย ลงท้ายด้วย ยอยักษ์ มีขน เป็นอวัยวะ
ตอบ : คิ้วซ้ายไง
ถาม : อะไรเอ่ย เป็นแท่งๆ แทงแล้วเจ็บ เวลาแทงมีน้ำด้วย
ตอบ : เข็มฉีดยา
ถาม : อะไรเอ่ย? ยิ่งใหญ่ยิ่งขนเยอะ
ตอบ : รถบรรทุก
ถาม : เค้าซื้อนู๋มา เค้าพานู๋ไป พานู๋ไปถูไถจนน้ำนู๋ไหลนู๋คืออาราย
ตอบ : สบู่ ไง
ถาม : อะไรเอ่ยอยู่ใต้หว่างขาราคาเป็นหมื่น?
ตอบ : มอเตอร์ไซด์ไงล่ะ
ถาม : อะไรเอ่ย ขึ้นต้นด้วย"ห" ลงท้ายด้วย"สระอี" ผู้หญิงใช้ฉี่
ตอบ : ห้องน้ำสตรี
ถาม : เวลาเอาเข้าแข็งเวลาเอาออกนิ่มมีน้ำยืดติดมาด้วย
ตอบ : หมากฝรั่ง
ถาม : อะไรเอยต้องถ่างก่อนเสียบ
ตอบ : แว่นตา
ถาม : อะไรเอ่ย ชักเข้า ชักออก น้ำไหลเรื่อย ๆ
ตอบ : ก็ แปรงฟัน อะเด่ะ
ถาม : อะไรเอ่ย?เป็นสัน เป็นนูน มีรู มีขน
ตอบ : จมูก
ถาม : เด้งๆเด้าๆยิ่งเข้ายิ่งแข็ง
ตอบ : คนสูบยางรถไง
ถาม : อะไรเอ่ยปิดหน้าเห็นนมปิดหลังเห็นขน
ตอบ : ขนม ไง
ถาม : ผู้หญิงกับผู้ชายทำอะไรกันน้ำออกจากหอย
ตอบ : แต่งงานกัน (ตอนรดน้ำสังข์ไง)
ถาม : อะไรเอ๋ย รอบ ๆ มีขน ตรงกลางมีรู
ตอบ : หูสัตว์งัยจ้ะ เช่น หูวัว หู***งัย
ถาม : อะไรเอ่ย…..ข้างบนมันข้างล่างเหนื่อย
ตอบ : ก็คนแบกมันไง
ถาม : อวัยวะส่วนใดในร่างกายที่เหม็นที่สุด ?
ตอบ : ไหปลาร้า
ถาม : อะไรเอ่ย บางคนสั้น บางคนยาว บางคนใหญ่ บางคนเล็ก ไว้ใช้กับเมีย
ตอบ : นามสกุลคับ
ถาม : อวัยวะส่วนใดในร่างกายที่เหม็นที่สุด ?
ตอบ : ไหปลาร้า
แล้วขนอะไรอยู่ในที่ลับ? งงอะดี้
เฉลย: ขนยาบ้า
Ha...ไหม.
พอหอมปากหอมคอ..เน๊อะ..
ที่มา: http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=08be7ec82b494d94&hl=th&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3D%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%26hl%3Dth
จะให้เหลือ..คนดีๆๆอีกสักคนกัน พวกคุณ..ถึงจะรู้

อาลัยท่าน..

หลังจากช่วงกลางวันของวันนี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ส่งผลให้ท่านผู้กำกับได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมลูกน้องอีก 4 คน ขณะกลับจากติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เหตุเกิดที่บริเวณบ้านทับช้าง ม. 2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ก่อนทั้งหมดจะถูกลำเลียงทั้งทางรถยนต์ และทางเฮลิคอปเตอร์ ส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นการด่วน และภายหลังเป็นที่ทราบว่าท่านได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดกว้างประมาณ 2 เมตร ลึก ประมาณ 1 เมตร โดยคนร้ายได้ซุกระเบิดไว้ใต้ท่อระบายน้ำใต้ผิวถนน แล้วลากสายไปยังป่าข้างทาง นอกจากนี้ ยังพบว่ารถยนต์กระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กข.9302 ยะลา ที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตานั่งมา ได้รับความเสียหายสภาพพังยับเยิน


รางวัล..?
ผลจากการทำงานทุ่มเทมาตลอดชีวิต ข้าราชการตำรวจ ทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้รับการยกย่อง และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆเป็นจำนวนมาก และ ที่สร้างความปลาบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดในชีวิต และครอบครัว คือ ได้รับการโปรดเกล้า ฯ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับพระราชทาน ”เครื่องราชอิสริยาภรณ์อัน มีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร” ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และกระทำพิธี ”ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา” ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 ที่ผ่านมา
กระแสข่าวกล่าวว่า เดิมผู้บังคับบัญชากำหนดให้ พล.ต.อ.สมเพียร จะมาดำรงตำแหน่งผกก.สภ.กันตัง จังหวัดตรัง แต่ต้องหลีกทางให้กับนายตำรวจอีกคนหนึ่งที่ย้ายมาจาก สภ.หาดสำราญ จังหวัดตรัง โดยจะย้ายพล.ต.อ.สมเพียรไปเป็นผกก.สภ.เมืองตรัง แทนคนเดิมที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น รอง ผบก.จว.ตรัง ในที่สุดกลับต้องหลีกทางให้นายตำรวจอีกคนหนึ่งที่ถูกผู้บังคับบัญชาต้องการ ให้ย้ายออกจากตำแหน่งผกก.สภ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปประจำสภ.ปันนังสตา แต่เนื่องจากนายตำรวจคนนั้นไม่อยากย้ายไปอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้วิ่งเต้นกับนักการเมืองในจังหวัดสงขลาและจังหวัดตรัง ให้ย้ายตนไปเป็นผกก.สภ.เมืองตรังแทน โดยพล.ต.อ.สมเพียรต้องดำรงตำแหน่งผกก.สภ.ปันนังสตา ตามเดิม
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาชี้แจงว่า คณะกรรมการ ก.ตร ได้เตรียมพิจารณาข้อเรียกร้องของพล.ต.สมเพียรในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553 โดยจะพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเป็น รอง ผบก.สภ.กันตัง แต่พล.ต.อ.สมเพียรได้เสียชีวิตเสียก่อนและนับว่าท่านเป็น ตำรวจเพียงคนเดียว ในขณะมียศแค่ “จ่าสิบตำรวจ” ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมเพียร ยังได้รับพระราชทาน และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆอีกมากมาย เช่น
- ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นสอง ประเภทหนึ่ง
- ได้รับประกาศนียบัตร ” ผู้มีผลงานสู้รบดีเด่น ” จากกระทรวงมหาดไทย
- ได้รับเข็มรักษาดินแดนสดุดี จากกระทรวงมหาดไทย
- ได้รับมอบเกียรติบัตรผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละ จากองค์การทหารผ่านศึก
- ไดัรับประกาศผู้มีผลงานดีเด่นด้านการปราบปราม จากกองบัญชาการตำรวจภูธร 9
- ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนตำรวจภูธร 9 ดีเด่น
- ได้รับหนังสือสำคัญ จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต ) ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ ฯลฯ
คนดีๆๆ..จะให้เหลือในแผ่นดิ นนี้อีกสักกี่คนกัน คุณถึงจะมองเห็น..
กะผมขอดวงวิญญาณของท่านจงไปสู่สุคติสัมปรายภพเทอญ.
ศ.สาลา (ม.พอกะเทิน)
คนล่ะเรื่อง..ในเรื่องเดียวกัน (ไม่มีเรื่องราว..ในคาบของความมีเรื่องราว) :เรื่องเล่าจากความมึนงง

บิลล์ เกตส์ เกิดที่เมืองซีแอทเทิล มลรัฐวอชิงตัน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955 บิดาชื่อนายวิ ลเลียม เอ็ช เกตส์ จูเนียร์ มีอาชีพนักกฎหมายของบริษัท มารดาชื่อแมรี แมกซ์เวล เกตส์ เป็นสมาชิกคณะกรรมการของ Berkshire Hathaway, First Interstate Bank, Pacific Northwest Bell และคณะกรรมการแห่งชาติของ United Way ชื่อเต็มของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม ปู่ของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ซีเนียร์
บิลล์ เกตส์เข้าศึกษาที่โรงเรียนเลคไซด์ อันเป็นโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองซีแอทเทิล ที่นั่นเองที่เขาได้พัฒนาทักษะในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ของ โรงเรียน เพื่อให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม บิลล์ เกตส์ กับ พอล อัลเลน เพื่อนสนิท ได้แอบย่องเข้าไปในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ทั้งคู่ถูกจับได้แต่ก็ได้เจรจาตกลงกับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนได้ใช้ฟรี ต่อมา บิลล์ เกตส์ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ต้องพักการเรียนไปโดยไม่จบการศึกษา เพื่อที่จะได้เริ่มประกอบอาชีพทางด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับสตีฟ บาลเมอร์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมห้องในหอพักระหว่างที่เป็นนักศึกษาปี 1
ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขาได้ร่วมกับ พอล อัลเลน เขียนต้นแบบ ภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นโปรแกรมอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับ เครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นแรกที่ประสบ ความสำเร็จทางการค้าในกลางคริสตทศวรรษที่ 70) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาษาเบสิก ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ได้ง่าย ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกโดยดาร์ทเมาท์คอลเลจ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน
เกตส์สมรสกับ เมลินดา เฟร้นช์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1994 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันสามคน เจนนิเฟอร์ แคทารีน เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1996) โรรี จอห์น เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1999) และ ฟีบี อาเดล เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2002)
ในปี ค.ศ. 1994 บิลล์ เกตส์ได้ม้วนกระดาษไลเชส เตอร์ ซึ่งรวบรวมงานเขียนของเลโอนาร์โด ดา วินชีมาไว้ในครอบครอง และในปี ค.ศ. 2003 ได้นำม้วนกระดาษนี้ออกแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองซีแอทเทิล
ในปี ค.ศ. 1997 เกตส์ได้ตกเป็นเหยื่อของแผนการขู่กรรโชกทรัพย์อันแปลกประหลาด ของนายอดัม ควินน์ เพลตเชอร์ ชาวเมืองชิคาโก ซึ่งเกตส์ก็ได้ขึ้นให้การต่อศาลในการพิจารณาคดีดังกล่าว เพลตเชอร์ถูกตัดสินลงโทษเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1998 และถูกจำคุกเป็นเวลา 6 ปี ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1998 เกตส์ถูกนายโนเอล โกดังจู่โจม ด้วยการปาขนมพายหน้าครีมใส่ ระหว่างการไปปรากฏตัวที่ประเทศเบลเยียม
ตามรายงานของนิตยสารฟอบส์ เกตส์ได้บริจาคเงินให้การรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2004 และตามรายงานของศูนย์เฝ้าระวังทางการเมือง เกตส์ถูกระบุว่าบริจาคเงินอย่างน้อย 33,335 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับการรณรงค์หาเสียงมากกว่า 50 ครั้ง ตลอดฤดูกาลเลือกตั้งในปีค.ศ. 2004
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2004 บิลล์ เกตส์ ได้ร่วมกับคณะกรรมการบริหารของ Berkshire Hathawayวอร์เรน บัฟเฟตต์ Berkshire Hathaway เป็นกลุ่มบริษัทที่รวมเอา บริษัทประกันภัยไกโค Benjamin Moore(บริษัทสี) และ Fruit of the Loom(บริษัทสิ่งทอ) เข้าไว้ด้วยกัน เกตส์ยังได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารของ Icos ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของ Bothell เพื่อสานความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างเขากับ
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2005 สำนักวิเทศสัมพันธ์ของสหราชอาณาจักรได้ประกาศว่า บิลล์ เกตส์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน อันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตอบแทนที่ต่อสิ่งเขาได้อุทิศให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักร และความพยายามของเขาในการลดปัญหาความยากจนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นบุคคลสัญชาติในกลุ่มประเทศเครือจักรภพ เขาจึงไม่สามารถใช้คำนำหน้าว่า เซอร์ ได้ แต่เราต้องใส่อักษร "KBE" (Knight Commander of The British Empire) ตา

โน๊ต อุดม
ชื่อ : นาย อุดม แต้พานิช
อุดม แต้พานิช เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2511 ปัจจุบัน อายุ
35 ปี แม้จะมีวัยเพียงเท่านี้ แต่อุดมก็ได้สร้างผลงานออกมา
สู่สายตาประชาชนมากมาย ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นล้วนเป็นที่ได้
รับความนิยมสูงสุด
ประวัติการทำงาน
ก้าวแรกในวงการ :
อุดม แต้พานิช เข้าวงการบันเทิงครั้งแรกเมื่อปี 2536 เริ่มจาก
การเป็น 1 ใน 5 เสนาฯ รายการยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็น
รายการ Comedian Show ที่มีเรตติ้งสูงสุดของช่อง 5 ในยุคนั้น
จึงทำให้อุดมได้แจ้งเกิดในวงการ บันเทิง ย่าง เต็มตัวในชื่อ
เสนาฯโน้ต
กว่าจะมาเป็นเดี่ยว :
หลัง จากความสำเร็จในครั้งแรก อุดม แต้พานิช ได้ตัดสินใจ
แยกตัวออกมาจากเสนาฯ ยุทธการ และได้สร้างปรากฏการณ์
ขึ้นในเมืองไทย นั่นก็คือ การพูดตลกคนเดียวบนเวที ทำให้
คนไทย ได้รู้จักคำว่า Stand Up Comedy หรือ ในชื่อไทย
เดี่ยวไมโครโฟน เป็นครั้งแรก
การแสดงเดี่ยว ไมโครโฟนครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปี 2538 และนี่
ถือเป็นการเริ่มต้น ส่งผลให้ อุดม แต้พานิชได้กลายเป็นตลก
เดี่ยวชั้นแนวหน้าของประเทศ จนเกิด เดี่ยว2, 3, 4 เป็นโชว์
คนเดียว กับไมค์ที่มีคนรอบัตรจำนวนมาก จนถึงกับต้องเปิด
การแสดงติดต่อกันถึง 21 รอบในแต่ละครั้ง ในประเทศนี้
นอก จากธงไชย แมคอินไตย์ ก็เห็นจะมีเขานี่แหล่ะที่ทำ
อย่างนั้นได้
เล่า เรื่องราว งานเขียน :
ทางด้านงานเขียนหนังสือ อุดม แต้พานิชเป็นคนหนึ่งที่ได้
ชื่อว่าเป็นนักเขียน Best Seller ปัจจุบันนี้หนังสือของอุดม
แต้พานิชมีถึง 9 เล่ม ได้แก่
- โทษฐานที่รู้จักกัน (พิมพ์ซ้ำ 31 ครั้ง)
- หนังสือโป๊ (พิมพ์ซ้ำ 20 ครั้ง)
- เดี่ยวไมโครโฟนโชว์ห่วย (พิมพ์ซ้ำ 12 ครั้ง)
- รวมมิตรแต้พานิช (พิมพ์ซ้ำ 18 ครั้ง)
- เดี่ยวฯ 4 (พิมพ์ซ้ำ 8 ครั้ง)
- โน้ตบุ๊ค (พิมพ์ซ้ำ 13 ครั้ง)
- ก้นกล่อง (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
- เดี่ยวไมโครโฟน 1 (พิมพ์ซ้ำ 11 ครั้ง)
- GU(Garbage of Udom) เล่ม 1-3 จำนวน 170,000 เล่มในเวลาเพียง 6 สัปดาห์
นอกเหนือเหล่านี้ :
นอก จากจะเป็น Stand Up Comedian เป็นนักเขียนแล้ว อุดม
แต้พานิช ยังมีผลงานทาง การแสดงภาพยนตร์เรื่อง กล่อง
รับบทเป็นพระเอกซึ่งได้รับ ค่าตัวแพงที่สุดในประเทศไทย
และยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายโฆษณาคลื่น โทรศัพท์มือถือDtac
อีกทั้งอุดมยังเป็นศิลปินวาดภาพ เขาเคยมีผลงานแสดงผลงาน
ทางศิลปะมาแล้วถึงสามครั้ง ครั้งแรกใช้ชื่อว่า ยาระบายในปี
2542 และในปีถัดมาใช้ชื่องานว่า Note Udom on Canvas
ล่า สุดในปี 2544 อุดมใช้ชื่องานว่า Voodoo Gu do
ผลงานต่างๆที่อุดมได้ สร้างสรรค์ออกมานั้น ทำให้สื่อมวลชน
หลายแขนงได้ยกย่อง อุดม แต้พานิช ถือเป็นบุคคลสำคัญ
คนหนึ่งที่มีส่วนในการสร้างสรรค์สังคม
- ปี 2540 ได้รับเลือกเป็น บุคคลแห่งปีจากคอลัมภ์จุดประกาย
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพฯธุรกิจ
- ปี 2542 หนังสือพิมพ์ The Nation : Special issue ได้รับเลือก
ให้อุดม แต้พานิช ได้เป็น 1 ใน 100 บุคคลแห่งศตวรรษ
ใน สาขาอาชีพการแสดง
- และในปีเดียวกันนั้นเอง นิตยสาร Hi Class ได้มีการจัดอุดม
แต้พานิช ให้เป็น 1 ใน 50 ผู้มีอิทธิพลทางความคิดที่สุดใน
ประเทศไทยอีกด้วย
และถ้าเป็น คุณ ล่ะ จะตั้งคำถาม เรื่องอะไร..?
เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ..(จากบ้านนอก)
ก่อนเรามาความรู้จักทำความเข้าใจกันสักนิดก่อนว่าโรคติดอ่างที่จริงแล้วมันเป็นได้อย่างไรและเพราะอะไร.
ติด อ่าง (Stuttering)
ผศ.นพ.พนม เกตุมาน
โรคติดอ่างเป็นโรคที่พบได้ตั้งแต่เด็ก อาจเป็นต่อเนื่องไปจนโต ทำให้เกิดปมด้อย ไม่มั่นใจในตนเอง ดังนั้น เมื่อพบว่าเด็กมีอาการติดอ่าง ควรรักษาตั้งแต่ต้น
อาการ
การพูดขาดความต่อเนื่อง ติดๆขัดๆ อาจติดในคำแรกๆ หรือเป็นเฉพาะบางคำ บางทีมีการนำคำบางคำมาใช้แทนคำที่พูดไม่ได้ มีการออกเสียงหรือพยางค์ซ้ำๆ ลากเสียงยาวๆ มีคำแทรกบ่อยๆ เช่น เอ้อ อ้า พุดขาดเป็นห้วงๆ มีการหยุดภายในคำ หยุดพูดเป็นพักๆ อาการมักสัมพันธ์กับความเครียดหรือสภาวการณ์ที่พูด อาการอาจไม่เกิดเมื่ออ่านออกเสียง ร้องเพลง พูดคนเดียว หรือพูดกับสัตว์เลี้ยง
อุบัติการณ์
ความชุกของโรคนี้ในวัยเด็ก ร้อยละ 1 ในวัยรุ่นพบร้อยละ 0.8
ชายพบบ่อยกว่าหญิง อัตราส่วน ชายต่อหญิง เท่ากับ 3 ต่อ 1
การดำเนินของโรค
มักเริ่มเป็นตั้งแต่เด็ก อายุ 2-7 ขวบ (ส่วนใหญ่พบเริ่มอายุ 5 ขวบ) ในระยะเวลาที่เด็กเริ่มหัดพูด บางคนเป็นชั่วคราวแล้วหายไปได้เอง ร้อยละ 60 หายเองก่อนอายุ 16 บางคนเป็นต่อเนื่องจนโต จะรักษายาก แรกๆที่เป็นผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัว แต่ต่อมาผู้ป่วยจะอายและพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ต้องพูด เช่นการรับโทรศัพท์ หรือหลบเลี่ยงการพูดหน้าชุมชน ถ้าจะพูดจะเกิดความเครียด อาการอาจทำให้เสียหน้าที่การงาน
สาเหตุ
พบว่ามีปัจจัยทางพันธุกรรมในโรคนี้
การรักษา
ไม่มียารักษาโรคนี้โดยตรง การรักษาใช้หลายวิธีประกอบกัน ได้แก่
พฤติกรรมบำบัด
วจีบำบัด
การผ่อนคลายความเครียด
(พอคร่าวๆ เน๊อะ...) แล้วที่นี้หลังที่รู้กันมาพอสมควรแล้วว่า โรคติดอ่างนี้มันเป็นยังไง ...ที่นี้มาดูวิธีการดูแลรักษาป้องกันไม่ให้เกิดกับบุคคลในครอบครัวเราบ้าง..
เอ้า..ที่นี้มันจะสนุกและแปลกใหม่ตรงที่ผม นำเอาวิธีการของคน2กลุ่มมาบอก
กลุ่มแรก คือ นายแพทย์หรือที่พวกเราคุ้นเคยกันดีก็คือหมอ และกลุ่มที่2คือ หมออินเตอร์(คืออะไร)หมออินเตอร์ก็คือ พวกเราๆนี้แระเอาแล้วเกี่ยวอะไรกับหมอล่ะ ยกตัวอย่างเช่นมีกลุ่มคนกลุ่มสนใจหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องไก่ อ่ะพอได้ข้อมูลมาแล้วอ่านพิจารณาแล้ว รู้สึกว่าเ่อ่อ..มันดี เนื้อหาน่าสนใจว่ะ..เผยแผ่ดีกว่า..(ก็เหมือนผม)
กลุ่มแรก
------------
อาการพูดติดอ่างเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการที่สะดุดในวัยเด็ก อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก หรือเกิดขึ้นเมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น คาดว่า อาจจะมีผู้ปกครองที่ดูแลเอาใจใส่และฝึกฝนทุกอย่าง อย่างเข้มงวด เอาจริงเอาจัง และพิถีพิถันตลอดเวลา ทำให้เด็กต้องระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษไม่ว่าจะทำอะไร
โดยเฉพาะถ้า พ่อแม่เป็นคนที่เน้นในเรื่องของการพูด ร เรือ ล ลิง สระ -ะ สระ -า เด็กก็ยิ่งต้องเตรียม ตัวเรื่องการพูดมากเป็นพิเศษโดยไม่รู้ตัว และเมื่อมีปัญหาแล้วได้รับการเตือนหรือดุก็จะยิ่งทำให้ความมั่นใจลดลง ซึ่งการเตือนหรือดุนั้นถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกทาง และพฤติกรรมสะดุดนี้ก็จะเกิดขึ้นเมื่อเด็ก เติบโตต่อไป
แต่การที่ เด็กถูกฝึกหัดเลี้ยงดูมาอย่างพิถีพิถันและเข้มงวดนั้น ก็มีส่วนดีไม่ใช่น้อย เพราะจะทำให้เติบโต ขึ้นมาเป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นคนที่รับผิดชอบต่อสังคม เป็นคนที่รับผิดชอบต่อตัวเอง และรับผิดชอบต่องานที่ทำอยู่ ตรงจุดนี้แหละที่จะทำให้มีเพื่อนมาก เป็นที่รักใคร่และชื่นชอบของเพื่อนร่วมงาน จึงถือว่าอาการติดอ่างเป็นจุดอ่อนที่ไม่สำคัญในการที่จะคบหาสมาคมกับใครๆ
แต่ อย่างไรก็ดียังถือว่าเป็นจุดอ่อน ซึ่งถ้าได้รับการแก้ไขก็จะทำให้สิ่งที่ตามมาเป็นประโยชน์กับคนคนนั้นอย่าง เต็มที่
เพราะพวกเราอ่านประวัติศาสตร์ของอเมริกา เราจะพบว่าบรรดาผู้นำของสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นมา กล่าวคำปราศรัยทีละนานๆ ด้วยคำปราศรัยที่เต็มไปด้วยความหมายซาบซึ้งตรึงใจชาวอเมริกันและชาวโลกที่ ได้ร่วมรับฟัง แต่นั่นไม่ได้เป็นคำปราศรัยที่ท่านคิดขณะนั้นและพูดขณะนั้น แต่เป็นการเตรียมมาก่อนไม่ว่าจะเป็นท่าที ลีลา คำพูดที่ควรจะเน้นตรงไหน หรือเบาตรงไหน
ดังนั้น ถ้าคุณเห็นว่าการพูดติดอ่างเป็นปัญหาต่อการพูดจาสื่อสารกับบุคคลอื่น เพราะคุณกำลังเริ่มทำ งาน การฝึกหัดคงจะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด บางคนอาจจะฝึกหัดด้วยตัวเอง โดยเตรียมตัวทุกวันก่อนออกจากบ้าน ฝึกอ่านหนังสือดังๆ ฝึกคิด ทบทวนว่าถ้าพูดกับใครจะโต้ตอบอย่างไร เรียกว่าเตรียมตัวให้พร้อมซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือจากการฝึกหัด
บางครั้งสังคมไทยยังยอมรับพฤติกรรมที่การตอบ คำถามของผู้อื่น เช่น เมื่อเขาถามประโยคซึ่งคุณอึดอัด ใจหรือไม่แน่ใจว่าถ้าตอบไปแล้วจะมีการติดอ่างหรือไม่ หลายคนก็ใช้วิธียิ้มตอบ หรือเฉยๆ ซึ่งคนที่ถามก็จะยอมรับได้เช่นกัน
ประธานาธิบดี ของสหรัฐอเมริกาที่พูดติดอ่าง มิหนำซ้ำยังเคยสอบตก ตอนที่สมัครเป็นประธานาธิบดี คือท่านประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งเป็นประธานาธิบดีที่คนชาติอื่นๆทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี ถ้าคุณได้อ่าน ประวัติของท่านจะเห็นว่า ท่านเอาชนะอาการพูดติดอ่างด้วยการฝึกฝนตัวเองตลอดเวลา จนสามารถเป็นประธานาธิบดีที่พูดคำขวัญที่ประทับใจชาวอเมริกันและประชาชนทั่ว โลก โดยกล่าวว่าประชาธิปไตยคือระบอบ การปกครองโดยประชาชนและเพื่อประชาชน และอีกคำขวัญหนึ่งก็คือคำกล่าวที่ว่า อย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรกับท่าน แต่จงถามว่าท่านจะให้อะไรกับประเทศชาติ ซึ่งเป็นคำขวัญที่ประทับใจและนำไปใช้ได้ตลอดกาล
ถ้าคุณได้ลองฝึก แล้วและคิดว่า ยังไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ขณะนี้ยังไม่มีสถานที่ที่รักษาหรือบำบัดเรื่องพูดติดอ่างโดยตรง แต่อาจจะนำไปปรึกษากับจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน หรือใกล้ที่ทำงานของคุณก็ได้ บางครั้งก็อาจจะได้เพิ่มนอกเหนือจากที่คุณเล่าประกอบกับความเห็น ทำให้แพทย์สามารถให้คำแนะนำได้มากกว่าที่ป้าหมอแนะนำไป
และป้าหมอ มั่นใจว่าเมื่อคุณมีความมุ่งมั่นก็จะทำให้อาการพูดติดอ่างที่เกิดขึ้นลดลง และหมดไปอย่างแน่นอน
-------------------------------------------------
ที่นี้มาดูหมออย่างพวกเราๆกันบ้าง
: จาก http://board.dserver.org/w/wwwt/00000150.html
โรคติดอ่างนี้จากการวิจัยศึกษาของนักจิตวิทยา(เมือง นอก)พบว่ามีสาเหตุมาจากสภาวะทางจิตโดยที่คนที่ติดอ่างนั้นมักจะเป็นคนที่มี ความไม่มั่นใจในตัวเองแฝงอยู่ลึกๆหรือตื้นๆทั้งสองกรณี บวกกับสภาวะความเครียดทางอารมณ์...มีผลให้ที่จิตใต้สำนึกไปทำให้อวัยวะที่ เกี่ยวข้องกับการออกเสียงไม่ทำงานเต็มที(หรือทำงานแบบไม่เต็มใจ)นั่นเองและ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
การติดอ่างจะมีอยู่หลายระดับ ระดับที่เป็นมากจะเป็นตลอดเวลา ระดับไม่มากจะเป็นบางโอกาสเช่นเวลามที่เครียดมากๆ อยู่อยู่ในสถาการณ์ที่ชวนให้ตื่นเต้น เช่น อยู่ต่อหน้าเพาตรงข้ามหรือพูดคุยกับคนแปลกหน้า
การพูดติดอ่างเล็กน้อย หรือการพูดสะดุดคำบางคำ เป็นเรื่องที่พบบ่อยในหมู่เด็กเล็ก อันเป็นผลจากการที่ เด็กมีความกระตือรือร้นที่จะพูดที่เร็วกว่า ความสามารถของร่างกาย จะตอบสนองได้ทัน
จัดว่าไม่แปลกเพราะเกือบทุกรายบอกได้เลยว่า ปัญหาทั้งหลายจะหายไปเองโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษใด ๆ
การพูดติดอ่างต่อเนื่องในเด็กโต จะพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง ความตึงเครียดทางอารมณ์จะทำให้อาการดังกล่าวเลวลง คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรจะไปใส่ใจ หรือจ้องให้ความสนใจ ในความลำบากของเด็กจนเกินไป อย่างไรก็ตาม การบำบัดปัญหาการพูด จะช่วยเด็กที่พูดติดอ่างได้ดี และส่วนใหญ่จะหายขาด
การพูดติดอ่างนอกจากจะเป็น เรื่องของกรรมพันธุ์แล้ว ยังถือว่าการเลี้ยงดูและจิตใจก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ทำให้ เด็กพูดติดอ่างได้(เรียกว่ามักเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว...
การที่เด็กพูดคำซ้ำๆ ไม่ออกเป็นประโยคเสียที เราเรียกว่าพูดติดอ่าง มีบางส่วนอาจเกิดจากการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องทำให้เด็กเร่งพูด และเกิดจากความกังวลก่อนจะพูดทุกครั้ง กลัวโดนว่าหรือกลัวถูกเยาะเย้ย หรือไม่มีใครฟังเด็กพูดเลย ลูกจึงต้องเร่งการพูด ขอให้ใจเย็นๆ กับลูกนะคะ อย่าจ้องหน้าลูกเวลาเด็กจะพูด เพื่อให้เด็กผ่อนคลาย การพูดของเขาจะค่อยๆดีขึ้น
สรุปว่ามาจากผลทางอารมณ์และประสบการณ์ตอนเยาวัยนั่งล่ะ
ส่วนพวกผู้ใหญ่นี้ก็มีการติดอ่างเหมือนกันแต่ติดอ่างเป็นบางครั้ง เช่น อ่างที่เจ้าพระยา อบอาบนวด 5555....แบบนี้นิสัยไม่ดี ต้องรักษาอาการด้วยไม้หน้าสามแทน
^_^...
ติดอ่างนี้แก้ได้โดยการฝึกความมั่นใจให้กับตนเอง
ปลาวาฬทรายติดอ่างเปล่าจ้ะ
ดีแล้วล่ะที่ไม่ไปดูหนังบ่อยๆ GTW เองก็นานๆ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีชื้อแผ่นมาดูที่บ้านเพราะสะดวก แม้จะไม่ได้อรรถรสและสุนทรียรสเหมือนดูโรงใหญ่ก็พอแก้ขัดได้
หนังนี่ก็เป็นสิ่งที่นอกเหนือเหตุผลทางอารมณ์ของคนนะ บางทีหนังเศร้าก็อาจทำให้เราร้องไห้ไก้(ทั้งๆที่พยายามบอกตนเองว่านั่นไม่ ใช่เรื่องจริง แต่ทำไมจิตใจมันถึงได้อินไปกับหนังก็ไม่รู้ เฮ้อ..แปลกดี GTW เป็นคนหนึ่งที่ต่อมน้ำตาตื้นดูหนังเศร้าไม่ค่อยจะได้พาลจะทำให้หลั่งน้ำตา 555...ทั้งที่เป็นชายอกสี่ศอกแท้ๆ.....ดีนะที่ดูหนังเศร้าแล้วไม่ติดอ่าง ^_^.....สงสัยเป็นคน sensitive มากไปหน่อย ดังนั้นถ้าหนังเศร้ามากๆ จะใช้วิธีปิดหูปิดตาพยายามนึกเรื่องขำๆ ไม่ให้น้ำตาไหลจนเสียฟอร์ม 55555......
ขนาดอ่านอะไรเศร้าๆก็ยังจะเป็น เอ้อ กุ้มจาย....^_^
แว๊ก..เที่ยงคืนกว่าแล้วปายนอนก่อนนะจ้ะแล้วคุยกันใหม่จ้า
แว่บ
------------------------------------
: จาก http://dek-d.com/board/view.php?id=1523229
ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้เคยไปพบแพทย์หรือยังคะ?
ว่าอาการติดอ่างนี้ เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นเพราะสภาพร่างกายหรือเปล่าน่ะค่ะ
อืม.. ในเบื้องต้นคิดว่าควรพบแพทย์ทางร่างกายเพื่อตรวจดูก่อนนะคะ ถ้าพบสาเหตุก็แก้กันไป
แต่ถ้าไม่ก็อยากแนะนำให้พบนักจิตวิทยาค่ะ
ตอน นี้วงการจิตวิทยาในเรื่องการพัฒนาทักษะการพูดนี่ค่อนข้างหายาก และป๊อบปูล่าพอสมควรนะคะ (ค่าตัวแพงดับดิ้น) แต่ก็ยังประจำอยู่ในโรงพยาบาลรัฐ รู้สึกที่โรงพยาบาลรามาฯ จะมีอ.ผู้หญิงอยู่ค่ะ เป็น speech therapist คือเป็นนักฝึกการออกเสียงโดยตรง คิดว่าจะช่วยเหลือในด้านนี้ได้นะ ในไทยได้ยินว่ามีอยู่สัก 6 คนเองนะ (ถ้าจำไม่ผิด)
ถ้าหากคิดว่าตัวเองเป็นกังวล ลองแก้เองแล้วไม่หาย ยังไงลองปรึกษาคุณหมอดูบ้างก็ดีค่ะ
เพื่อนเราก็มีลักษณะบกพร่อง เรื่องการออกเสียงเหมือนกัน พูดแล้วจะออกเสียงไม่ชัด ทำให้คนฟังฟังยาก เขาก็ไปฝึกตอนเรียนมหาลัยเนี่ยค่ะ ก็ดีขึ้นนะคะ
ในขั้นต้นก็คิดว่า ควรหัดพูดช้าๆ พูดทีละคำ และพูดให้เต็มเสียงก่อนค่ะ
อืม ถ้ามีข้อสงสัยยังไงมาตอบกระทู้ไว้ก็ได้ค่ะ ถ้ารู้อะไรจะบอกให้เน้อ
------------------------
(เป็นไงบ้างครับ..สาระพอได้ไหม)..55 แต่ถึงอย่างไรก็ฝากพ่อแม่พี่น้องทุกคนดูแลสุขภาพด้วยกันนะครับ..สำหรับวันนี้..บะบาย
วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553
ว่าด้วยเรื่อง เตือนภัยจาก HI5 ตอนที่สอง
ภัยที่เกิดได้คือ...
คุณ อาจจะชอบที่จะมีเพื่อนใหม่มีคนรู้จักกว้างขวางแต่พวกเขามาพร้อมภัยอันตราย ถ้าคุณโชคดีไม่เจอก็ดีแล้วแต่ถ้าคุณไม่ระวังตัวก็อาจจะเจอบุคคล
ประเภทที่เรียกว่าโรคจิต
ขออณุญาติเล่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หนู เล่นHi5มานับหลายเดือนแล้วค่ะมองในแง้ดีมาตลอดไม่เคยคิดว่าจะ เจอพวกโรคจิตที่ก่อความวุ่นวายใจและเดือดร้อน วันนี้บุคคลโรคจิตขอตั้งนามเป็นA
นายAแอดหนูมานานแล้วหนูก็รับแต่ไม่คิดอะไรมากและได้ข่าวว่าเขาเคยบวชพระมา แล้วก็ไม่คิดอะไรคิดว่าเขาเป็นคนดีวันนี้เค้าก็ทักมา ว่าขอบคุณที่รับแอด
และแนะนำตัวด้วยความที่หนูมองโลกในแง้ดีก็คุยไปเรื่อยๆจน ไม่รู้ว่าสิ่งอันตรายมาถึงตัวแล้ว
เขาแอดเมลหนูมาหนูกดรับแอด โดยที่รู้สึกไม่ค่อยดีแล้วหนูได้ถามเขาว่าเอาเมลหนูมาจากไหนเขาบอกว่าหาเอง ง่ายนิดเดียวhackระบบhi5แล้วก็submitนู้น
นี้ตอนนี้รู้แล้วว่าเค้าเริ่มโรค จิต!แล้วสักพักเขาก็บอกขอเป็นเพื่อนด้วยนะแต่ขอเป็นมากกว่าเพื่อนเอาแล้วหนู เริ่มตกใจเริ่มหาคนช่วยสิ่งแรกที่คิดคือชาวเด็กดี!
บุคคล ที่ช่วยหนู ได้คุยกับนายAทุกคนอ้างว่าเป็นพี่น้องของหนูและป็นแฟนหนูก็ไม่ว่าอะไรดีใจ มากที่ทุกคนช่วยสักพักนายAก็เริ่มเกรียนออกเขาพุดถึงเอง
นู้นเรื่องนี้สอบถาม ทุกอย่างกับชาวเด็กดีที่เข้ามาช่วยหนูจนทุกคนเริ่มเข้าเนื้อเรื่อง และทุกอย่างก็จบลงแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะดีหรือแย่กันแน่ก็ต้องรอดูต่อไป
ขอให้มาสเตอร์เห็นใจช่วยให้บุคคลที่ช่วยหนูเรื่องพวกนี้ได้สิ่งตอบแทนที่ดี และขอให้ทุกคนเป็นบุคคลที่ดีของสังคมหากเว็ปมาสเตอร์ไม่อณุญาติหนูไม่ขอ
รบกวนและสามารถลบกระทู้นี้ออกได้ทันทีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องกุขึ้นมามีหลัก ฐานหากอยากได้ก็เป็นบทความการสนทนาทั้งหมด
ระวังภัย ใกล้ตัวหากเจอโรคจิตปรึกษาผู้ปกครองดีกว่านะคะเล่นได้แต่ต้องไม่เกินเหตุ
อาจ จะมีคนเจอกันมาเยอะแล้วเห็นว่าเรื่องธรรมดาก็ช่วยเก็บไปคิดหน่อยค่ะ
----------------------------------------------------------------------
จะ ด้วยเรื่องอะไร เตือนอะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายมันก็คงต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องว่าจะเชื่อหรือไม่ ขอให้พิจารณาให้มากในการใช้สื่อ
อยู่ในขอบเขตของความปลอดภัย ทุกวันนี้มิจฉาชีพเยอะ..มีทั่วบ้านทั่วเมือง..หากพลาดมาแล้วเอาคืไม่ได้
(ฝากด้วยนะครับ)เป็นห่วงเพื่อนเราๆ..
สำหรับ วันนี้ ศ.สาลา ต้องบอกคำว่า ซำบาย ดี
ตะ ตะ ๆเตือนภัย..จากไฮ5 ..- -"
(แต่เดี๋ยวก่อน : ภาพที่จะได้เหงต่อไปนนี้อาจจะไม่เหมาะกับเด็กที่เปงโรคขี้กลัวขึ้นสมอง-เพราะอาจจะหลอนได้ ผู้ปกครองที่อยู่ใกล้ๆโปรดให้คำแนะนำ)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------






ระวังเจอแบบนี้....เหอะๆๆๆ
[ถ้าดูแล้วก็ขอ อภัยด้วยล่ะกัน]
(ฮือๆๆ โก โก้ กลัววววว)....
ที่มาจาก: http://forum.dekitclub.com/index.php?topic=1104.0
ิ
วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553
เรื่องเล่า จากก้อนหินและแท่งเหล็ก บันทึกที่ ๕
คุณสงสัยอะไรไหม? สงสัยว่าทำไมกันหน๊า.. ชีวิตทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้ ทำไมกูไม่รวยซะที ทั้งๆที่เราก็ทำเหมือนกับคนอื่นๆเค้า ในบางครั้งอาจจะทำมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ทำไม ชีวิตมันก็ยังอยู่แค่นี้...ไม่มีอะไรดีขึ้น
ความสุขที่แท้จริง คืออะไร ? แล้วสิ่งที่สุดของที่สุดที่มนุษย์ต้องการคืออะไร? รวยล้นฟ้าเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน (เอารวย ซะแค่ไหนดีละ บิว เกท) พอป่ะ บางคนขอแค่วันนี้ทั้งวันขอเถอะ ขอให้มี ข้าวกิน..ก็พอ หลายคนบอกว่าความจริงๆคือการที่คน คนหนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิต ไต่เต้าจากคน จนๆคนหนึ่งจนมาเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้าน..แต่บางคนบอกว่า ความสุขจริงมันคือ การที่เราอยู่ดีกิน ดี การพออกพอใจในสิ่งที่มีอยู่..หลากหลายเหตุผลของการนิยาม ของคำว่า ความสุข คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมกันล่ะคนหนึ่งว่าความสุขจริงๆคือการประสบความสำเร็จในชีวิตการงาน บางคนก็ว่าสุขจริงคือการพออยู่พอกินแล้วสิ่งในกันละที่ ที่สุดแล้วมันคือความสุขจริงความสุขที่แท้จริงทั้งที่หลายคนพูดมามันก็ล้วนแล้วแต่ถูกทั้งนั้น เอ้อ.บางคนว่ามันอยู่กับคนหรอก คนเราคิดเหมือนกันซะที่ไหนละ..แน๊ะ มันก็ถูกอีก
บางคนค้นหาความความสุขมาทั้งชีวิต เค้าบอกว่าจนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าอะไรมันคือความสุขที่แท้จริง..
มีครั้งหนึ่งผมได้ยินพ่อใหญ่คนหนึ่งบอกเป็นในๆว่า
ผมถามพ่อใหญ่แก ว่า พ่อใหญ่..พ่อใหญ่ ทำงานที่นี้มากี่ปีแล้วครับ
พ่อใหญ่: 30 ปี บ้อ..
ผม: แล้วพ่อใหญ่ ไม่อยากไปทำอย่าง อื่นบ้างหรอครับ
พ่อใหญ่: อยากไปอยู่….!
ผม: แล้วทำไม่ไปละครับ ที่นี้เงินเดือน ก็น้อยทำงานหนักด้วย
พ่อใหญ่: เว้าจังสั่นมันกะถืก..ย้อนมันฮักนี้ล่ะ บางเถื่อมันกะหนักอยู่..แต่บางเถื่อได้เฮ็ดแล้วมันมีควมสุข
ผม: - -“
พ่อใหญ่: พ่อใหญ่กะบ่ฮู้ ว่า จักสิเฮ็ดได่ ซำได๋
ครั้งนั้นมัน ยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่..(คือ สมองมันได้แค่นี้อ่ะ..)ผมฉกคิดอยู่หลายวัน ทำไมกันหนา เงินเดือนก็ เอ่อ.ไม่อยากพูด กดดันก็กดดันอายุแกก็เยอะด้วย..(พ่อใหญ่แก่บ้า รึเปล่าวะ) จนมาถึงวันหนึ่งวันที่ คำถามบางคำถามมันได้คำตอบ ผมลืมเรื่องพ่อใหญ่สนิทไม่ได้คิดด้วยซ้ำ ผมนั่งเซ็คคอม..พร้อมกับเครียร์งานเก่าๆให้เสร็จไปในเวลากัน ผมทำตั้ง 08.30 ปาเข้าไปเกือบจะเที่ยง คือวันนั้นทำงานจนลืมกินข้าวเลย เหนื่อยไหม กดดันไหม ก็ทั้งเหนื่อย ทั้งกดดันแต่มันมีความสุขว่ามันมีความสุขอ่ะมันอยากจะทำอีก บางคนบอกว่าการทำในสิ่งที่รัก สู้รักในสิ่งที่ทำไม่ได้..(เคยได้ยินไหม) จริงเหรอ ผมว่าก่อนที่มันจะรักในสิ่งที่ (มีต่อ)
วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553
สู่ที่สุด ของระบบรักษาความปลอดภัย (NOD 32) ?

Smarter Scanner – Threats don't always enter your network in ways you expect. ESET NOD32 Antivirus inspects SSL-encrypted communication channels like HTTPS and POP3S and intelligently scans compressed files to find hidden threats other products miss. Proactive protection begins at the earliest point in system startup to ensure your computer is always secure.
Clean and Safe Email – Email scanning for Microsoft Outlook, Outlook Express, Mozilla Thunderbird, Windows Live Mail, Windows Mail, and other POP3/IMAP mail clients, ensuring your email is free of viruses and other threats.
Removable Media Security – Threats can enter your PC from removable media such as USB thumb drives. For self-running media, ESET NOD32 Antivirus scans autorun.inf and associated files when the medium is inserted, in addition to scanning any file on any removable device when it is accessed, or during a full-scan of the media. Power users can adjust ESET NOD32 Antivirus to perform additional levels of scanning on removable media.
System Tools – ESET SysInspector and ESET SysRescue simplify diagnosing and cleaning of infected systems by allowing deep scans of system processes to find hidden threats, and creating bootable rescue CD/DVD or USB drives to help you repair an infected computer.
Self Defense – ESET NOD32 Antivirus has built-in technology to prevent malicious software from corrupting or disabling it, so you can rest assured your system is always protected.
Proactive ProtectionDid you know ESET's virus labs see over 100,000 unique new malware samples each day? ESET's advanced heuristics stops malware as they are released, not hours or days later like signature-based solutions.
Many Usability Improvements – ESET Smart Security has numerous speed, security and usability upgrades such as:
Energy-sipping battery mode extends laptop battery life without compromising security
Advanced Protection Status screen informs you of threat detections
Information pop-ups are hidden when running full screen applications like games, video players or presentations
Password protection prevents ESET NOD32 Antivirus from being uninstalled by strangers
New interface and keyboard shortcuts simplify use for visually impaired users

Key Benefits
Keeps you safe from viruses, spyware, trojans, password stealers and other malware threats
Tiny signature updates happen discretely as needed and won't bog down your system