วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

ขุนแพน+โคโยตี้

ขุนแพน+โคโยตี้ (กับความเชื่อโบราณ)



ตามข่าว

เลขาฯเจ้าอาวาส-พระปก ครอง และผู้เกี่ยวข้องของวัดเซิงหวาย

ที่ จัดทำพระขุนแผน รุ่นโคโยตี้ เปิดแถลงข่าวยันเป็นเรื่องส่วนตัวของพระอาจารย์อึ่ง ที่ปลุกเสกเพียงลำพังหลังลูกศิษย์นำพระรุ่นนี้มาขอให้ช่วย ผู้จัดทำเผยได้แบบมาจากเพื่อนจึงนำไปทำและขอให้อาจารย์อึ่งช่วยปลุกเสก ส่วนคณะผู้จัดทำรุ่นที่ 2 รับไม่ตั้งใจแต่มีชาวบ้านที่นำไปบูชาแล้วทำมาค้าขึ้นอยากได้อีก จึงตัดสินใจผลิตขึ้นมาใหม่แต่ตัดภาพอุจาดบางส่วนออก โต้วุ่นให้เรียกเครื่องรางเพราะไม่มีรูปพระมาเกี่ยวข้องเลย เป็นเพียงภาพผู้ชายสะพายดาบและอุ้มเด็กเท่านั้น



ความ คืบหน้าเหตุอื้อฉาวในวงการสงฆ์เกี่ยวกับการปลุกเสกพระขุนแผน รุ่นโคโยตี้ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่วัดเวตวันธรรมาวาส (วัดเซิงหวาย) พระมนตรี ประภาธโร เลขานุการเจ้าอาวาส, พระอาจารย์สมชาย ธัมมลโต พระปกครองวัด, นายสมศักดิ์ ว่องไว ไวยาวัจกร, นายรัชชานนท์ พวงสมบัติ ผู้จัดทำเครื่องรางขุนแผนโคโยตี้ รุ่น 2 และนายสมเกียรติ ทองสุก ผู้จัดทำเครื่องรางขุนแผนโคโยตี้ รุ่น 1 ร่วมกันแถลงข่าวกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้น

พระมนตรีชี้แจงว่า

ทาง วัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยว ข้องในการจัดทำเครื่องรางขุนแผนรุ่นดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องของลูกศิษย์ที่มีความศรัทธากับพระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล (พระอาจารย์อึ่ง) เป็นการส่วนตัว

ส่วนพระ อาจารย์สมชายกล่าวถึงความเหมาะสมเรื่องเครื่องรางดังกล่าวว่า

เท่า ที่สอบถามพระอาจารย์อึ่งทราบว่าไม่รู้ว่าพระภายในกล่องเป็นอะไร ทราบแต่เพียงว่าเป็นพระขุนแผน เมื่อเปิดออกมาดูก็พบว่ามันไม่เหมาะสม จึงได้แจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ไป แต่ภายหลังเมื่อมีการแจกออกไป ปรากฏว่าพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณวัดนำไปบูชาพบว่าทำมา ค้าขายดีขึ้น ต้อง การอยากได้อีกจึงสอบถามมาทางวัด แต่ทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นการกระทำของพระอาจารย์อึ่งที่นั่งอธิษฐานจิตภายในกุฏิของท่านแต่เพียง ผู้เดียว

นายรัชชานนท์ ลูกศิษย์พระอาจารย์อึ่งกล่าวว่า

ขุน แผนโคโยตี้นั้นไม่ขอเรียกว่าเป็นพระขอใช้ว่าเป็นเครื่องราง ยอมรับว่าเป็นผู้จัดทำรุ่นที่ 2 เนื่อง จากวัดต้องการบูรณะซ่อมแซมหลังคาวิหาร ก็มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ทราบข่าวบริจาคเงินซื้อกระ เบื้อง โดยมีคนต้องการขุนแผนโคโยตี้ เป็นจำนวน มาก จึงจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทน โดยรุ่น 2 นี้ตัดเอารูปผู้หญิงและปลัดขิกออก เหลือเพียงแผ่นด้านหลังเรียบธรรมดา พร้อมฝังแร่ลงไปในเครื่องราง



"หลังจากที่เป็นข่าวออกไป อยากกราบขอโทษต่อบรรดาชาวพุทธ เสียใจที่ทำให้ทางวัดและพระอาจารย์อึ่งเสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเกิดเรื่องพระอาจารย์สุเทพเดินทางไปกราบเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเจ้า คณะแขวงและพระชั้นผู้ใหญ่ ตอนนี้ยังไม่สั่งลงโทษเป็นลายลักษณ์อักษรมายังพระอาจารย์ สุเทพแต่อย่างใด" นายรัชชานนท์กล่าว



ด้านนายสม เกียรติ ผู้จัดทำเครื่องรางขุนแผนโคโยตี้รุ่นแรกกล่าวว่า



ได้ แบบพิมพ์มาจากเพื่อน เพื่อทำแจกคนรู้จักกัน จึงนำมาให้พระอาจารย์ สุเทพประมาณ 2,000 ชิ้นเพื่ออธิษฐานจิต เพราะรู้จักกับพระอาจารย์สุเทพเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น

นายสมศักดิ์ซึ่งทำหน้าที่ไวยาวัจกร ของวัด กล่าวว่า

สำหรับ พระอาจารย์อึ่งเป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก ข่าวที่ออกไปน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ขอยืนยันว่าวัดไม่ได้ทำพิธีปลุกเสกแต่อย่างใด ที่สื่อนำไปลงว่าเป็นพระขุนแผน ไม่น่าจะใช่ เพราะพิมพ์ปรากฏรูปผู้ชายสะพายดาบ อุ้มเด็กจะไปเรียกว่าพระได้อย่างไร

วัน เดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงพระอาจารย์ อึ่ง ซึ่งลูกศิษย์ใกล้ชิดแจ้งว่าพระอาจารย์มีกิจธุระเดินทางไปต่างจังหวัดไม่ สามารถมาแถลงข่าวได้ ขณะ ที่แถลงข่าวมีประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในละแวกวัดได้มาร่วมฟังการแถลงข่าวกัน เป็นจำนวนมาก




คนเรานี้ก็ฉลาดเน๊อะ..รุจักเอาความเชื่อโบร่ำโบราณมาผสมผสานกับ วัฒนธรรมสมัยใหม่
(เท่าที่ได้ยินคนพูดปาก)
ต่อปากเค้าขลังนะครับ โอ..โห่ มีแล้ว ร่ำรวยขายของดี เปงเทน้ำเถท่า..(5++ เห็นว่าทำมาแค่2รุ่น)




ยังไงก็ตามแต่มีเสียงวิพากษฺวิจารณ์กันต่างๆนาๆว่า (เฮ่อ..สังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนไปถึงขนาดนนี้เชียว) มังทำให้ศาสนาเสื่อมโทรม มังเปงการะกีณี..อีกฝ่ายก็ออกมาแก้ตัว เฮ้ย..อธิบายว่าขุนแผนม่ายใช่พระนะเปงเครื่องลาง(อ่า ต้องทำความเข้าใจกันหน่อย) และยังย้ำบอกอีกว่า โหดกว่าที่ทำกว่านนี้ก็มีแค่นี้ ยังธรรมดาๆ ก็คงจะมายถึงปลัดขิกฯลฯน่านนั้นแระ

สุดท้ายมันก็ต้องขึ้นอยู่กับบุคคลว่าจะใช้วิจารณะญานในการดู การฟังขนาดไหน..อีกอย่างประเทศไทยอ่ะ ประชาธิปไตย..(เสียงข้างมากยุแล้วพี่น้อง) ที่ตาเห็นอาจจะไม่อย่างที่คิดก็ได้..ใครจะรู้

ขอบคุณเนื้อหาสาระดีจาก : หนังสือพิมพ์ข่าวสด



ซำบายดี

1 ความคิดเห็น:

ฟังเพลงเย็นๆ กับ ศ.

ผู้ติดตาม

ฟังเพลงเย็นๆครับผม