วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คำศัพท์ภาษาอังกฤษแปลกๆ...เมื่อแปลเป็นภาษาไทย

-------------------------------------------
คำศัพท์ภาษาอังกฤษแปลกๆ...เมื่อแปลเป็นภาษาไทย

Computer - คณิตกรณ์
Software - ละมุนภัณฑ์
Hardware - กระด้างภัณฑ์
Windows - พหุบัญชร
Powerpoint - จุดอิทธิฤทธิ์
Lotus notes - พหุอุบลจารึก
Excel - ภัทร
Visualbasic - ปฐมพิศ
Multitasking - พหุภาระ
Taskbar - แท่งภาระ
Joystick - แท่งหฤหรรษ์ (เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เล่นเกมที่ทำให้เกิดความสุข)
Build-in - สรรค์ใน (สรรค์ = สร้าง รวมกับใน = in)
Standalone - ยืนเอกา (เอกา = โดดเดี่ยว, ยืน = ไม่ได้นั่ง รวมความได้ว่าไม่ได้นั่งคน เดียว หรือยืนคนเดียว)
Phase - วัฎภาค
Modulus - ปมาณ (ไม่ใช่ประมาณ)
Transcendental - อดิศัย
Function - การยะ (อ่านว่า กา-ระ-ยะ)
Interaction - อันตรกิริยา
Active - กัมมันต์
Pattern - กระสวน (รูปแบบ)
Apex - กูฎ (ใช้ว่า ยอด)
Half-life - อรรธชีพ (หรือ ครึ่งชีวิต)
Ultimate - อันติมะ (หรือ สูงสุด, สุดยอด)
Wave - วีจี (ใช้ว่า คลื่น)


--------------------------------------------
สำนวนไทยพื้นบ้านแปลกๆ

กบขี่เกวียน วามหมายเหมือน คางคกขึ้นวอ
ฉลาดแต่ช่างโสฬส หมายถึง เล่นพนันเก่ง(โสฬส แปลว่า16 หมายถึง
พรหมโลก16ชั้น)
งัวสิ้นกระตัก(ปฏัก) มายถึง ขี้เกียจ
ขนตางอน สาวๆคนไหนได้ยินคำนี้ เขาไม่ได้ชมนะครับ มีความหมาย2อย่าง ขี้งอน กับ ชอบแต่งตัว
อีลึกลือทรงเครื่อง แปลว่า พวกแต่งตัวประหลาด
อีเมืองเขมร แปลว่า พวกไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง
ตัณหาสด ไม่ต้องแปล ความหมายตรงๆครับ
ตะแกรงร่อนถั่ว หมายถึง ทำอะไรไม่รอบคอบ
ไม่รักอาย ความหมายตรงๆ
หมดเป็นพอ แปลว่า ฟุ่มเฟือย
ห้ามสวรรค์ แปลว่า ทำอะไรเกินตัว
ไม่อายแก่มด แปลว่า ไม่มียางอาย
จะนั่งไหนก็แฉะแบะ ไม่ต้องแปลครับคำนี้
มืดกลางวัน ความหมายอย่างที่คิดนั่นแหละคับ
หมามานข้างวัด แปลว่า หมาท้องข้างวัด หมายถึง ขี้เกียจ นอน
นั่งร้านในห้อง แปลว่า เอาแต่อยู่ในห้อง
หึงลมยังค่ำ ความหมายตรงๆ
เจ้ากรมด่าน แปลว่า เปลี่ยนคู่รักเรื่อยๆ
เล่นขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น ความหมายอย่างที่คิดนั่นแหละคับ
ปลาขมงโกรย หมายถึง รูปร่างไม่สมส่วน
ชังคนแก่ แปลว่า ไม่ดูแลคนแก่

หวังคงจะเป็นประโยชน์ไม่มาก ก็ น้อยล่ะ

ข้อมูลจาก: http://www.tanarat.com/board/index.php?topic=3419.0
http://cid-f45dbce66b5d979b.spaces.live.com/blog/cns!F45DBCE66B5D979B!195.entry



I got this Hi5 Layout from skin-hi5.blogspot.com

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

ศ.สาลา [In] English lessons


กระดาษหน้ากลางที่ขอจากเพื่อน (กับความรู้ที่พอจะเก็บมาได้เล็กน้อย...)

วันนี้ช่างคอมฯ(ซอฟต์ฺแวร์)ของเรา แจ้งเกิดเลย(เฮ่อๆภูมิใจแทนเพื่อนครับ)

สองคนนี้นั่งข้างหน้าผมครับ(ไอ้เบ้ กับ ไอ้ต้อม) สายตาดูมุ่งมั้นเหลือเกิน แต่พอถามว่า รู้เรื่องป่ะ...?


ครับสำหรับวันนี้ นาย ศ ก็มีเรื่องมาโม้ให้ฟังอีกตามเคย (อิงบทเรียนนิดๆ) วันนี้มันในหัวข้อ English lessons ง่ายๆก็คือบทเรียนอังกฤษนั้นเอง สืบเนื่องจากตัวกระผมเองวันนี้ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงจะบ่ายโมงซึ่งเป็นคาบวิชาอังกฤษของอาจารย์ ศรัญญา(ใจจริงคิดว่าวันนี้ น่าจะไม่ได้เรียนอุตสาห์ดีใจไว้รอ) อันนี้ขำๆครับ ยังไงการเรียนก็ต้องมาก่อนอยู่แล้ว และก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นครับ วันนี้อาจารย์มาแปลกไม่ด่าปรกติอาจารย์จะเทศนาเรื่องการแต่งตัวผมประจำก่อนเรียน แต่พอมารู้อีกทีว่าอาจารย์จะพาไปไหนไม่รู้และแล้วอาจารย์ก็บอกให้เดินตามอาจารย์แล้วอาจารย์ก็ย้ำนักย้ำหนาว่า ครูจะเช็ครายชื่ออีกรอบ(เฮ่อ)แล้วอาจารย์พาผมไปที่ห้องอารัยก็ไม่รู้เหมือนโรงหนังคับคล้ายคับคาว่าเคยเข้ามาก่อน แล้วบอกพวกเราว่าจะมีวิทยากรมาให้ความรู้เรื่องการเรียนภาษาอังกฤษ (โอ..ผมคติดเลยครับงานนี้ยาวแน่ๆ)
พอเข้าไปก็มีผุชายคนหนึ่งนั่งอยู่โต๊ะ ผมเห็นทีแรกถึงกับพูดในใจเลยว่า โอ...อาจารย์น่าเด็กมากๆ(อาจารย์คงจะประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยเลยนะเนี๊ย สุดยอดจิงๆ)นั่งดูอาจารย์ท่านนั้นทำอะไรก็ม่ายรุอยู่นานโข แล้วก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งเดินมาพูดไมค์ แล้วบอกว่า เอ่อนักศึกษาตอนนี้ท่านอาจารย์กำลังเดินทางมาจาก ม.อุบล อ้าวววที่นั่งมะตะกี๊ม่ายช่ายอาจารย์ที่เปงวิทยากรรึครับ(ผมบ่นเบาๆ)ผมหันไปมองหน้าเพื่อนที่นั่งข้างๆแล้วพูดว่า เมิงคิดเหมือนกูไหม แล้วมันก็บอกว่า เ่อ่อ..กูก็ว่างั้นแระไหงเปนงี๊อ่ะ

(เดี๊ยวมาต่อครับ)

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Che Guevara (กูคือตำนาน) The History


Che Guevara was an Argentinean-born, Cuban revolutionary leader who became a left-wing hero. A photograph of him by Alberto Korda became an iconic image of the 20th century.

Ernesto Guevara de la Serna, known as Che Guevara, was born on 14 June 1928 in Rosario, Argentina into a middle-class family. He studied medicine at Buenos Aires University and during this time travelled widely in South and Central America. The widespread poverty and oppression he witnessed, fused with his interest in Marxism, convinced him that the only solution to South and Central America's problems was armed revolution.

In 1954 he went to Mexico and the following year he met Cuban revolutionary leader Fidel Castro. Guevara joined Castro's '26th July Movement' and played a key role in the eventual success of its guerrilla war against Cuban dictator Fulgencio Batista.

Castro overthrew Batista in 1959 and took power in Cuba. From 1959-1961, Guevara was president of the National Bank of Cuba, and then minister of industry. In this position, he travelled the world as an ambassador for Cuba. At home, he carried out plans for land redistribution and the nationalisation of industry.

A strong opponent of the United States, he guided the Castro regime towards alignment with the Soviet Union. The Cuban economy faltered as a result of American trade sanctions and unsuccessful reforms. During this difficult time Guevara began to fall out with the other Cuban leaders. He later expressed his desire to spread revolution in other parts of the developing world, and in 1965 Castro announced that Guevara had left Cuba.

Guevara then spent several months in Africa, particularly the Congo, attempting to train rebel forces in guerrilla warfare. His efforts failed and in 1966 he secretly returned to Cuba. From Cuba he travelled to Bolivia to lead forces rebelling against the government of René Barrientos Ortuño. With US assistance, the Bolivian army captured Guevara and his remaining fighters. He was executed on 9 October 1967 in the Bolivian village of La Higuera and his body was buried in a secret location. In 1997 his remains were discovered, exhumed and returned to Cuba, where he was reburied.
-------------------------------------------
Ernesto Che Guevara (เช กูวารา) เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 1928 (ข้อมูลหลายแห่งบอกว่า เขาเกิดในเดือนมิถุนายน แต่จริง ๆ แล้วมารดาของเขา ต้องการปกปิดว่าเธอตั้งครรภ์ก่อนแต่งราว สามเดือนจึงให้แพทย์ลงในใบเกิดว่าคลอดเดือนมิถุนายน เพราะการคลอดก่อนกำหนดเจ็ดเดือน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้) ที่เมือง โรซาริโอ (Rosario) อำเภอเล็ก ๆ ของกรุงบัวโนส ไอเรส (Buenos Aires) ประเทศอาร์เจนตินา ครอบครับของเขาเป็นชนชั้นกลาง เป็นบุตรของ Ernesto Guevara Lynch และ Celia de la Serna Llosa มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน และ Ernesto เป็นพี่คนโต
บิดาเป็นนักธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องการเงิน อยู่เสมอ แต่ก็สามารถ ประคับประคองครอบครัวให้มีความสุขตลอดมา
ในวัยเด็ก Ernesto เกิดและโตอยู่ท่ามกลางเรื่องราวความแตกต่างของชนชั้นทางสังคมมาตลอด สายเลือดแห่งความเป็นนักสังคม และการมีบุคลิกที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้คนยอมรับภาวะการ เป็นผู้นำของเขา ก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากบิดามารดานั่นเอง
หนูน้อย Ernesto เริ่มเป็น โรคหอบหืด (Asthma) ตอนเอายุได้เพียงสองขวบเท่านั้น และโรคนี้ก็กลายเป็นโรคประจำตัว ของเขาไปตลอดชีวิต โรคหอบหืด เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของ Ernesto ในเวลาต่อมา เนื่องจาก เมื่อโตขึ้น เขาตั้งใจว่าจะเรียนวิชาแพทย์เพื่อหาทางรักษามันให้หายให้ได้
ปี 1947 Ernesto เข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัย Universidad Nacional de Cordoba โดยเน้นวิชาการด้านผิวหนัง (Lepraleiden (โรคเรื้อน)) ครอบครัวของเขา ตัดสินใจย้ายบ้านไปอยู่ที่เมือง Alta Gracia ซึ่งอยู่ใกล้กับเมือง Cordoba เมืองที่เขาเรียนอยู่ ทั้งนี้เพราะที่เมืองนี้ มีอากาศที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพของ Ernesto
ในช่วงของการเรียนมหาวิทยาลัย Ernesto พยายามเล่นกีฬาหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ลัคบี้ เบสบอล ปีนเขา และอื่น ๆ โดยหวังจะเอาชนะโรคหอบหืด แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ครั้งหนึ่งในช่วงปี 1951 เขาตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวระยะยาวร่วมกับเพื่อนชื่อ อัลแบร์โต กรานาโด (Alberto Granado) ไปทั่วอเมริกาใต้ด้วยรถมอร์เตอร์ไซด์ (Motorradreise)

(บันทึกการเดินทางของเขา ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา "The Motorcycle Diaries") และการเดินทางครั้งนี้นอกจากทำให้เขาโด่งดังไปทั่วแล้ว ยังเป็นการเดินทางที่มีผลต่อแนวคิดครั้งยิ่งใหญ่ จนเขากลายเป็นนักปฏิวัติ ผู้ตั้งใจอุทิศชีวิต และเลือดเนื้อเพื่อคนชั้นล่างของสังคมในเวลาต่อมาด้วย
ในช่วงที่เดินทางผ่านประเทศ โบลิเวีย, ชิลี, เวเนซูเอลา รวมทั้งการทำงานเป็นแพทย์อาสา ในระยะเวลาสั้น ๆ ที่เปรู ทำให้ Ernesto ได้เห็นภาพความยากจนของชาวบ้านที่โดน กดขี่จากนักการเมือง และนักธุรกิจ ในท่ามกลางเศรษฐกิจแบบทุนนิยมของประเทศอย่างมาก หนุ่มน้อย Ernesto จึงหันมาสนใจการเมืองในอเมริกาใต้อย่างจริงจัง แนวคิดที่มีอิทธิพลต่อเขาอย่างยิ่ง คือ มาร์กซิสต์ (Marxismus) อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้ว แนวคิดมาร์กซิสต์นี้ Ernesto ศึกษามาก่อนหน้าที่เขาจะท่องเที่ยวแล้ว ด้วยเขาเป็นคนชอบอ่านหนังสือ รวมทั้งสนใจศึกษาปรัชญา การเมืองการปกครอง มาแต่สมัยเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเมืองการปกครองของประเทศอาร์เจนตินา บ้านเกิดของเขาเอง ภายใต้การนำของผู้นำที่เขาเกลียด Juan Domingo Peron เพราะคอยกดขี่ประชาชน อยู่เเสมอ

ภาพการถูกกดขี่ข่มเหงของประชาชนในอเมริกาใต้โดยทั่วไป ได้กลายเป็นสิ่งบ่มเพาะจิตสำนึก จนทำให้ Ernesto ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า เขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อปลดปล่อยสภาพแบบนั้น ให้กับประชาชนชาวอเมริกาใต้ และคิดได้ว่า การทำงานเป็นแพทย์แต่เพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือผลักดันให้เกิดภาพที่เขาอยากเห็นเหล่านั้นได้ ดังนั้น ปี 1953 หลังเรียนจบที่คณะแพทย์ ในขณะที่ Granado เพื่อเก่าที่เคยเดินทางด้วยกัน ย้ายไปทำงานที่เวเนซูเอล่า Ernesto กลับเดินทางไปประเทศกัวเตมาลา เพื่อเข้าร่วมกับคณะรัฐประหาร ที่ต่อต้าน Jacobo Arbenz Guzmán ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา และที่นี่เองที่เขาพบรักกับ Hilda Gadea Acosta หญิงชาวเปรูที่ลี้ภัยการเมือง
แม้จะเป็นเพียงแพทย์ในกลุ่ม แต่ด้วยประสบการณ์ และความทรงจำในกัวเตมาลา ผลักดันให้ Ernesto เดินทางต่อไปยังประเทศเม็กซิโก และได้แต่งงานกับ Hilda ที่นั่น และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1956 เขาก็ได้ลูกสาวคนแรกชื่อ Hildita
เม็กซิโก คือสถานที่สำคัญในการพลิกชีวิตของเขาอีกครั้งเมื่อ Ernesto ได้พบกับ ฟิเดล คาสโตร (Fidel Casto) นักปฎิวัติหนุ่มชาวคิวบา (ผู้นำประเทศคิวบาคนปัจจุบัน) เป็นครั้งแรก ในช่วงเดือนกรกฎาคมของปี 1955 ซึ่งในขณะนั้น ฟิเดล คาสโตร ผู้นำกลุ่ม Moncadistas เดินทางไปเม็กซิโกเพื่อลี้ภัยทางการเมือง ภายหลังที่เขาพึ่งพ้นโทษ ในข้อหาหัวหน้ากบฎจากปฏิบัติการโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดีบาติสตา รัฐบาลผู้กุมอำนาจ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด และกดขี่ชาวคิวบาอย่างแสนสาหัส เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม1953
คาสโตร รวบรวมสมัครพรรคพวกใหม่ รวมทั้งแอบฝึกกองกำลังติดอาวุธกับเพื่อนที่ลี้ภัยทางการเมือง ชาวคิวบา ผู้ร่วมปฎิบัติการวันที่ 26 กรกฎาคม (M-26-7) มาด้วยกัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกลับไปปฏิวัติ นำประชาธิปไตยสู่ประเทศคิวบาอีกครั้ง โดยเน้นการรบแบบสงครามกองโจรเป็นหลัก Ernesto เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย ในการร่วมกับกลุ่มครั้งแรก Ernesto ทำหน้าที่เป็นหน่วยแพทย์ โดยมีชื่อสมาชิกว่า Che (เป็นคำเรียก เพื่อนสนิท เพื่อนตาย ภาษาอาร์เจนตินา หรือ อาจใช้เป็นคำทักทายกัน ทำนองเดียวกับ Hey ก็ได้ เหตุที่ Ernesto ได้รับชื่อ Che นี้ ก็เพราะตัวเขาเองมักทักทายเพื่อน ๆ ในกลุ่มว่า Hey เสมอ ๆ)
วันที่ 25 พฤศจิกายน 1956 กลุ่มคณะปฏิวัติรวมทั้งสิ้น 82 คน ออกเดินทางด้วยเรือยนตร์ขนาดเล็ก ชื่อ Granma จากเมือง Tuxpan ประเทศเม็กซิโกมุ่งหน้าสู่ประเทศคิวบา แต่เนื่องจากวันเดินทาง เป็นคืนเดือนมืด และต้องแรมเรืออยู่ในทะเลราวเจ็ดคืน จึงขึ้นฝั่งที่คิวบาได้เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1956 และเพราะโดนคลื่นลมพัดพา จนลูกเรือหลายคนเมาคลื่น รวมทั้งทำให้ขึ้นฝั่งผิดเป้าหมาย ที่วางแผนกันไว้ เป็นผลทำให้กองกำลังปฏิวัติถูกโจมตีโดยกองทัพของประธานาธิบดีบาติสตา จนแตกพ่ายที่เทือกเขาในเขตเมือง Sierra Maestra เหลือกำลังพลเพียง 12 คน เท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็คือ Che Guevara
ในปฏิบัติการรบด้วยวิธีแบบกองโจรนี้เอง ที่ทำให้ Che ต้องเปลี่ยนตำแหน่งของเขาอย่างรวดเร็ว จากการทำหน้าที่แพทย์ ก็ค่อย ๆ กลายเป็นนักรบที่ต้องจับอาวุธขึ้นต่อสู่โดยตรง และด้วยการปฏิบัติการที่เด็ดขาดแน่วแน่ รวมทั้งไหวพริบปฏิพานที่ได้รับการฝึกฝนทำให้ Che กลายเป็นทหารที่มีความสำคัญต่อกลุ่มในไม่ช้า และหลังจากที่หน้าที่ของ กองกำลังแรกซึ่งเป็นกองเริ่มต้น ภายใต้การบังคับบัญชาของ ฟิเดล คาสโตร (Comandante en Jefe) สิ้นสุดลงในปลายปี 1956 Che ก็ได้ยกฐานะขึ้นทำหน้าที่เป็นผู้บังคับการ กองกำลังทหารปฏิวัติช่วงที่สอง (Comandante der Rebellenarmee) ซึ่งเป็นหนึ่ง จากทั้งหมด 9 ช่วงในการปฏิวัติครั้งนั้น เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 1957 นอกจากนั้นเขายังได้รับความไว้วางใจให้เป็น ผู้บัญชาการของกลุ่ม II Kolonne ด้วย

หลังจากกลุ่มของเขา ต่อสู้แบบกองโจรได้ราวสองปี แม้จะต้องแตกพ่ายในช่วงแรก แต่ในที่สุดที่เมือง Santa Clara (ซานตาครูส) วันที่ 1 มกราคม 1959 กองกำลังก็สามารถเข้ายึดอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จจากประธานาธิบดีบาติสตา ซึ่งสุดท้ายก็แอบหลบหนีออกจากคิวบาไป
แม้ก่อนหน้าที่จะยึดอำนาจ ได้สำเร็จกลุ่มของคาสโต จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะกับนายทุนอเมริกัน ผู้คาดหวังชัยชนะของคาสโตรจะทำให้มีโอกาสกอบโกยในคิวบา แต่คาสโตก็ขอรับการ สนับสนุนการปฏิวัติจากสหภาพโซเวียตด้วยในเวลาเดียวกัน และหลังจากการปฎิวัติสำเร็จลง คาสโตร เลือกที่จะยืนอยู่ตรงกันข้ามกับสหรัฐ นั่นหมายถึง เลือกอยู่ข้างค่ายโลกคอมมิวนิสต์แทน
Che ได้รับสัญชาติเป็นชาวคิวบา ในปี 1959 เพื่อเป็นการขอบคุณเขาในฐานะเป็นผู้ร่วมโค่นล้ม บาติสตา ลงได้ และนอกจาก ฟิเดล คาสโตร , หลุย์ คาสโตร, คามิโล คีนฟูโก แล้ว Che ก็มีตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลใหม่แห่งคิวบาด้วย ทั้งนี้เพื่อร่วมกันดำเนินการปฏิรูปประเทศใน ส่วนสำคัญ ๆ อย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตามในรัฐบาลสังคมนิยมชุดนี้ แนวทางคอมมิวนิสต์ยังคงมีอิทธิพลต่อแนวคิดของ Che และเข้มแข็งมากกว่าแนวปฏิบัตินิยม และการเมืองนิยมของคาสโตร จุดสูงสุดทางตำแหน่งทาง การเมืองของ Che คือ ช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และเป็นผู้อำนวยการ ธนาคารแห่งชาติของคิวบา ราวต้นปี 1960 รวมทั้ง ช่วงสั้น ๆ ของการเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 1961 ด้วย
นอกจากงานทางด้านการเงิน การคลังแล้ว Che ยังได้รับมอบหมายงานที่เกี่ยวกับนโยบาย การปฎิรูปที่ดินในคิวบา โดยเขาเป็นผู้ผลักดัน และดำเนินการตามเป้าหมายแรกสุดของกลุ่ม ภายหลังการปฏิวัติสำเร็จ ก็คือ ยึดที่ดินของนักธุรกิจทั้งหลายมาแปลงให้เป็นทรัพย์สิน แล้วแจกจ่ายให้กับประชาชนของคิวบา และเมื่อรัฐบาลของคาสโตร ประกาศยึดที่ดินจากนายทุน มาแจกจ่ายให้กับประชาชนโดยให้ผลตอบแทนนายทุนบ้างเล็กน้อย ฝ่ายข่าวกรอง นอกประเทศของสหรัฐ จึงตัดสินใจเข้ามามีบทบบาทการเมืองในประเทศนี้ทันที ด้วยการหันไปหนุนบาติสตาผู้สูญเสียอำนาจให้กลับมาช่วงชิงอำนาจคืนอีกครั้ง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ฝ่ายอำนาจเก่าพ่ายแพ้ในการปะทะอย่างราบคาบ

ในช่วงเวลาที่เป็นผู้อำนวยการธนาคาร แห่งชาตินั้น Che กำหนดนโยบายที่ชัดเจนในเรื่อง เศรษฐศาสตร์การเมือง และกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจ โดยอาศัยเรื่องคุณธรรมจริยธรรม เป็นพื้นฐานเท่านั้น เขาพยายามเรียกร้องให้คิวบาเลิกพึ่งพาความช่วยเหลือจากประเทศสหรัฐอเมริกาในทุก ๆ ด้าน แล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากค่ายสหภาพโซเวียตแทน รวมทั้งให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ฟุ่มเฟือย สิ้นเปลือง เขาเรียกโปรเจคชิ้นนี้ว่า “New Man” แม้แนวคิดดังกล่าว จะถูกโต้แย้ง แต่ยิ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นแรงผลักให้ Che พยายามปฏิบัติให้เห็น เป็นตัวอย่างว่า สิ่งที่เขาคิดเป็นเรื่องที่ทำได้จริง ๆ
วันที่ 22 พฤษภาคม 1956 Che แยกทางกับ Hilda ซึ่งอยู่ที่เม็กซิโก แล้วแต่งงานใหม่ เมื่อวันที่ 2 มิถุนยน 1956 กับหญิงชาวคิวบา Aleida March ซึ่งทำงานเป็นหน่วยส่งเอกสาร ให้กับคณะปฏิวัติ ซึ่งได้รู้จักกันในระหว่างการสู้รบที่คิวบา
ภายหลังการรับ ตำแหน่งสำคัญ ๆ เหล่านั้น Che ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ เขาวางแผน ศึกษา เรียนรู้ ทั้งวันทั้งคืนเท่าที่จะทำได้ แม้เขาจะมีบุตรกับ Aleida 4 คน แต่ลูก ๆ ของเขาได้เจอเขาน้อยมาก เพราะเขาทำงานวันละ 18 ชั่วโมง
Che ทำงานด้วยความสมัครใจของเขาเอง เขาปฏิเสธที่จะรับเงิน หรือผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ อันเนื่องมาจากการมีตำแหน่งนั้น ๆ ทั้งสำหรับตัวเขาเอง และครอบครัว ครั้งใดที่ภรรยาของเขา Aleida จำเป็นต้องใช้รถประจำตำแหน่ง Che จะจ่ายเงินค่าน้ำมันรถเอง ความพยายามทุก ๆ อย่างของเขา ก็คือ เขาอยากให้ใคร ๆ ได้เห็นภาพของวิธีคิด และการปฏิบัติตัว (New Man) โดยเขายินดีที่จะเริ่มเป็นตัวอย่างที่ดีก่อน และด้วยการทำงานหนัก และการดำเนินการ ตามแผนเศรษฐกิจอย่างเคร่งครัด ของ Che ในช่วงนั้นเองที่ช่วยทำให้เศรษฐกิจที่เคย ล้มเหลวของคิวบากระเตื้องขึ้น รวมทั้งช่วยหยุดความขาดแคลนทั้งหลายที่เกิดขึ้นได้จนถึงทุกวันนี้
1961 Che ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

1962 เขาเปิดเจรจรข้อตกลงกับสหภาพโซเวียต (Union der Sozialistischen Sowjetrepubliken หรือ UdSSR ) เกี่ยวกับการขอความสนับสนุนด้านอาวุธ และด้านอื่น ๆ อย่างจริงจัง ภายหลังจากทีอเมริกาเริ่มไม่พอใจที่คิวบากระทำต่อนักธุรกิจอเมริกัน แล้วหันไปเข้ากับสหภาพโซเวียตแทน อเมริกาเพิ่มแรงกดดันทางการทหารกับคิวบามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชายฝั่งเมือง Havanna เรือสัญชาติฝรั่งเศษ (La Coubre) ถูกรอบวางระเบิด ในปี 1961 เป็นผลให้คนบนเรือตายไป 75 คน และอีก 200 คนได้รับบาดเจ็บ และรัฐบาลคิวบาสืบทราบว่า CIA เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดครั้งนั้น
และการยืนไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นเองที่ภาพของ Che ถูกบันทึกไว้ โดยช่างภาพชื่อ Alberto Diaz Korda แล้วถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับบ่ายวันที่ 5 มีนาคม 1960 ในภาพซึ่งแสดงให้เห็น ดวงตาที่ฉายแววแห่งความเศร้า ปนความโกรธ และความมุ่งมั่นดื้อรั้นของ Che ทำให้ภาพนั้นกลายเป็นภาพที่โด่งดังที่สุดในบรรดาภาพถ่ายทั้งหลาย เพราะเป็นเหมือนภาพสัญลักษณ์ของนักต่อสู้ และการปฏิวัติที่แน่วแน่ และยิ่งใหญ่

1964/65 Che เดินทางไปในหลายประเทศเพื่อเจรจาเรื่องต่าง ๆ อาทิ ประเทศในทวีปเอเชีย สิงคโปร์ จีน หรือแม้แต่การเข้าประชุมกับองค์การสหประชาชาติ UN เพื่อประกาศความไม่สนใจ หรือไม่ต้องการพึ่งพาเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป อันเป็นการกล่าวคำปราศรัยที่โด่งดังที่สุดอีกครั้งหนึ่งของเขา
ต่อมา ในเดือนตุลาคม ปี 1965 คาสโต ได้รับจดหมายลาจาก Che ใจความว่า เขาขอสละตำแหน่งทางการเมืองทั้งหมด รวมทั้งสัญชาติคิวบาด้วย เพื่อเขาจะกลับไปต่อสู้กับลัทธิจักรวรรดินิยมอีกครั้ง
ครั้งนั้นเองที่แสดงให้เห็นว่า แม้ Che Cuevara จะได้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ในประเทศคิวบา เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้วก็ตาม แต่ด้วยวิญญาณแห่งการปฏิวัติที่ไม่เคยมอดไหม้ ประกอบกับความตั้งใจแน่วแน่ของเขาที่จะช่วยประชาชนชาวอเมริกาใต้ให้หลุดพ้นจากการ กดขี่ข่มเหงโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ หรือสัญชาติ ยศฐาบรรดาศักดิ์ทั้งหลายก็ไม่อาจทำลายแนวคิดเหล่านั้นได้
อย่างไรก็ตาม มีผู้กล่าวว่า หนึ่งในหลายเหตุผลที่ Che ตัดสินใจกลับเข้าป่าปฏิวัติอีกครั้ง ทั้งที่อายุย่างเข้าวัยกลางคน และมีโรคหืดหอบประจำตัว ก็คือ ความไม่สมหวังในการสร้างคิวบา Che ชิงชังความเห็นแก่ตัว และการให้ความช่วยเหลืออย่างเสียไม่ได้ที่โซเวียต และประเทศยุโรปตะวันออกในยุค ครุสชอพ มอบให้แก่ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย Che จึงลอกคราบการเป็นนักบริหาร และนักการฑูตของคิวบาซึ่งตัวเขาเป็นมาหลายปีออกแบบไม่ไยดี หันกลับไปสู่ป่าเพื่อการปฏิวัติโดยไม่ได้หยุดหย่อน ในประเทศอื่น ๆ ที่ยังตกอยู่ภายใต้ ลัทธิจักวรรดินิยม และเตรียมพร้อมที่จะใช้ชีวิต และความรู้สึกเยี่ยงมนุษย์ที่ยากจน ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง
Che พร้อมเพื่อน ๆ อีกจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมสงครามปฏิวัติที่ คองโก ในทวีปแอฟริกา ในปี 1965 แต่ก็ล้มเหลว จากนั้นปี 1966 เขาจึงเดินทางเข้าไปยังประเทศโบลิเวีย เพื่อร่วมกับกลุ่มกบฏโบลิเวีย ทำสงครามปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการโบลิเวียในสมัยนั้น กลุ่มนักรบของ Che ราว 44 คน พยายามนำยุทธวิธีกองโจร ที่ใช้ได้ผลมาแล้วสมัยสู้รบกับคาสโตครั้งปฏิวัติคิวบา มาใช้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยความแตกต่างกันทั้งพื้นที่ และลักษณะแนวคิดพื้นฐานของชาวโบลิเวีย ที่แตกต่าง จากชาวคิวบา ทำให้วิธีการของเขาใช้ไม่ค่อยได้ผล แม้ในด้านหนึ่งชาวบ้านโบลิเวียจะเห็นด้วย และชื่นชมกลุ่มของเขา แต่มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่พร้อมจะหักหลังกลุ่ม พวกเขาเช่นกัน
กองกำลังปฏิวัติของ Che โดนตีแตกกระจาย หัวหน้ากลุ่มที่แตกไป ถูกฆ่าตายตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 1967 ส่วน Che และพวกที่เหลืออีกเพียง 14 คน โดนยิงบาดเจ็บ และถูกจับได้ในเดือนตุลาคม 1967 ที่ La Higuera เขตพื้นที่เล็ก ๆ ในเทือกเขา Cordillera ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของโบลิเวีย โดยกองกำลังทหารของรัฐบาลโบลิเวีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก CIA ของสหรัฐอเมริกา Che ถูกจองจำไว้ที่ La Higuera โดยมีเจ้าหน้าที่ของ CIA และ Felix Rodríguez ผู้ลี้ภัยชาวคิวบา ทำหน้าที่สอบปากคำในฐานะเชลยศึก
และไม่มีการพิพากษาใด ๆ ในชั้นศาล Che ถูกสั่งฆ่าด้วยการยิงเป้า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 1967 เวลา 13.10 น. จบชีวิตนักปฏิวัติที่มุ่งมั่น ด้วยวัยเพียง 39 ปี เท่านั้น

ภายหลังการถูกฆาตรกรรม ร่างของ Che ถูกทำให้ไร้ร่องรอย มือทั้งสองข้างของเขาถูกตัด เพื่อปิดช่องทางการพิสูจน์ตัวตน ร่างของเขาถูกนำไปฝังในสถานที่ลับห่างจากเมือง Vallegrande ราว 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ในโบลิเวีย (และห่างจากซานตาครูซ ประเทศคิวบาราว 125 กิโลเมตร) แต่ในที่สุดโครงกระดูกของ Che ก็ถูกค้นพบเมื่อปี 1997 โดยนักวิทยาศาสตร์ในโบลิเวียเป็นผู้พิสูจน์ ว่าโครงกระดูกนั้นเป็นของ Che Guevara จริง
กระดูกของเขาถูกส่งกลับไปยังเมืองซานตาครูส ประเทศคิวบา สถานที่ที่เขาเป็นวีรบุรุษผู้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร เมื่อปี 1958 เพื่อล้มรัฐบาลกดขี่ของบาติสตา คิวบาเก็บโครงกระดูกของ Che ว้ที่ Mausoleum หลุมฝังศพอันทรงเกียรติ ในซานตาครูซ และที่นั่นเอง (รวมทั้งอีกหลาย ๆ แห่งทั่วประเทศคิวบา) ชาวคิวบาได้สร้างอนุเสารีย์ Ernesto Che Guevara ในรูปที่พวกเขาคุ้นเคย คือ มือหนึ่งถือปืน ส่วนแขนข้างซ้ายเข้าเฝือกไว้ ขึ้นเป็นตัวแทนแห่งวีรบุรุษนักปฏิวัติ ที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชนชั้นล่างของสังคมจากการกดขี่ข่มเหงของนายทุนใน ลัทธิจักวรรดินิยม

ขอบคุณเนื้อหาสาระดีๆจาก:
http://atcloud.com/discussions/24632
http://www.bbc.co.uk/history/historic_figures/guevara_che.shtml

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ออกค่ายอาสา(สาหัสน่ะสิ) ที่เขืองใน


แวะไว้พระใหญ่

พวกนี้เอาทุกซ็อท...(ต้อม-แบงค์-ตาง)

ทีมงานล่าเนื้อ

กับอาหารเที่ยงที่สุดแสนจะแซ่บ

ภาหะนะมหาโหดของไอ้เป้(เฮ่อๆกูไม่อยากจะบรรยาย)

หัวหน้าใหญ่เค้า..ไอ้นี้โหดสุด

บ้านน้องเป้(พีระพละ

อ่ะนะก็ม่วนๆกันไป...สำหรับกิจกรรมยามว่างของเหล่าชายโสด(Software Human)

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10วิธีตื้อสาว(ใช้ได้ผลหรือไม่ไม่รู้คับ ต้องลอง)

1. แสดงความเป็นคนจริงใจ หลังตอแหลมาเยอะก็ปรับปรุงตัวบ้างสิยะ

อย่า พูดโกหกหลอกลวงให้เธอฟังอีก เพราะเครื่องจับเท็จของเธอนั้นแม่นยำกว่าเดิมหลายเท่าหลังจากโดนโกหกคำโต มาแล้ว คุณต้องซื่อสัตย์กับเธอมั่งซี่ บอกเธอว่า ทำไมคุณถึงทำผิดพลาด และคุณได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่ทำลงไปบ้าง ทำให้เธอเชื่อว่า คุณไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีเธอ ซึ่งถึงจะแหลอีกละ แต่คราวนี้ยกประโยชน์ให้จำเลยก็ได้ฟะ


2. ซื้อของขวัญชิ้นพิเศษให้

จริง อยู่ที่บางทีเธออาจกวักมือให้คุณกลับไป เพราะได้ของขวัญสุดเริดอย่างสร้อยคอเพชรร้านไฮโซทิฟฟานี แต่คนธรรมดาไม่ใช่ลูกมหาเศรษฐีอย่างเราๆจะไปซื้อของแพงๆมาถวายคุณเธอได้ไง ล่ะ เพราะฉะนั้นควรเลือกของขวัญที่มีความหมายพิเศษให้เธอแทน โดยเฉพาะลองหาบางสิ่งบางอย่างที่กระตุ้นให้เธอคิดถึง ช่วงเวลาลึกซึ้งของคุณกับเธอที่มีร่วมกันดูสิ มันอาจช่วยให้เธอระลึกถึงเวลาพิเศษนั้นและทำให้เธอคิดถึงอดีตอันหอมหวานก็ ได้ เช่น ถ้าคุณรู้ใจว่าเธอชอบอะไรมั่กมาก ก็ให้สิ่งนั้นเป็นของขวัญเธอเลย แบบว่า ถึงคราวต้องทุ่มก็ต้องทำ และหวังว่าเธอจะไม่ใช่พวกบ้าวัตถุมากนักก็ละกัน ว่าแต่ผู้หญิงคนไหนเหรอที่ไม่ชอบวัตถุน่ะ....อุ๊บส์


3. ชวนเธอออกเดท แล้วสังเกตว่าวันวานยังหวานอยู่ไหม?

ถ้าหลายสิ่ง เริ่มลงตัวและทั้งคู่เข้าใจจิตใจกันมากขึ้น อย่างนึงที่ฝ่ายชายควรทำให้เธอเห็นก็คือ คุณเป็นคนโรแมนติกเพียงใด เช่น สร้างบรรยากาศให้เหมือนมีเวทมนตร์ดูดิ ด้วยการชวนเธอเดทเหมือนครั้งเมื่อแรกรัก และชวนให้ระลึกถึงเรื่องดีๆที่ผ่านมา แล้วทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ เธอมองคุณในทางที่ดีขึ้น แต่ไม่ควรเสแสร้งจอมปลอมนะเฟ้ย


4. ทำตัวให้ดีๆ ไม่ใช่เกเรหรือปล่อยเนื้อ ปล่อยตัวจนหาความเป็นเทพบุตรไม่เจออีกต่อไป

โดยออก กำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่งตัวให้ดูดี แบบนี้สาวไหนเห็นก็ย่อมอยากกลับไปรักคุณอีกแหงๆ ก็ใครไม่ชอบล่ะถ้าแฟนเรายังหน้าตาดี หุ่นเนี้ยบ แต่งตัวเฉียบอย่างงั้นน่ะ


5. บอกไปตรงๆเลยว่า คุณยังรักเธออยู่ อย่ามัวแต่อ้อมค้อม จริงอยู่ที่ "ช้าๆได้พร้าเล่มงาม" แต่ถ้าเกิดช้ามาก ระวังหมาคาบไปแดกนะ

เพราะผู้หญิงน่ะอยากได้ยินคำสามคำนี้เสมอแหละ ยิ่งได้ยินจากคนที่เธอรักหรือเคยรักด้วยแล้ว มีรึจะไม่ใจอ่อน ไม่รู้ซะแล้วว่าสาวๆเค้าบูชาความรักขนาดไหน


6. สะกิดใจเธอว่า ถ้าไม่กลับมารักกัน เธออาจพลาดอะไรดีๆไปก็ได้

คุณ อาจเรียกร้องความสนใจจากเธอ โดยทำให้เธอหึงก็ได้ เผื่อเธอจะชอบคุณใหม่อีกครั้ง หรือไม่ก็อาจจะหมั่นไส้และเกลียดหน้า หาว่าเจ้าชู้ไปเลยก็ได้ เพราะงั้นจะใช้วิธีนี้ก็ควรระวังด้วยนะ


7. ปรับความเข้าใจ

เธอมักบ่น เกี่ยวกับการพูดจาของคุณว่าห่วยแตกหรือเปล่า? งั้นควรพิสูจน์ว่า สิ่งที่แล้วๆ มาก็คืออดีต แต่ตอนนี้คุณเป็นคนใหม่ และอยากปรับความเข้าใจ แต่อย่าใจร้อนละพ่อคุณ ถ้าขนาดอยากปรับความเข้าใจยังปรับความร้อนรนของหนุ่มๆ ไม่ได้นี่ก็น่าคิดเหมือนกันว่าจะกลับไปเป็นแฟนมันอีกทีดีไหม โธ่ โลกนี้เหลือไอ้นี่คนเดียวที่ไหนล่ะ


8. อย่าพูดอย่างทำอย่าง

สาวบางคนคิดในใจว่าเบื่อฉิบ เป๋งกับผู้ชายกะล่อน เพราะถ้าเขาบอกว่ายังรักอยู่ และอยากคืนดี แต่ตัวเองกลับไม่พยายามปรับปรุงตัวเพื่อปูทางไปสู่การครองรักกันใหม่ แล้วควรเสี่ยงกับเขาอีกไหมล่ะ อย่าเป็นคนปากอย่างนึง ส่วนการกระทำก็อีกอย่างเลย เข็ดแล้วจ้า


9. แสดงให้เห็นว่าคุณเปลี่ยนไปจริงๆ

การพูดคำว่า "ผมเต็มใจที่จะเปลี่ยนตัวผมเพื่อคุณ" ย่อมเป็นคำพูดที่ดีเยี่ยมสำหรับออดอ้อนคนรัก แต่พูดแล้วก็ควรปฏิบัติด้วย ไม่ใช่สักแต่พูด ถ้างั้นใครจะไปเชื่อล่ะ


10. สัญญาว่าจะเป็นคนรักที่ดี

ไม่ใช่อุตส่าห์ชวนมารัก กันใหม่แล้วก็ยังทำผิดซ้ำๆ ย่อมเสียความรู้สึกเปล่าๆ เพราะงั้นทำให้เธอใจชื้นด้วยการสัญญา (และต้องทำด้วยนะ) ว่าจะเป็นแฟนที่ดีตลอดไปละกัน ถ้าหลังจากนี้ยังเหลวเป๋วไม่ดีจริงละก็ กรุณาถีบไอ้นี่ทิ้งให้ถาวรไปเลย ให้รู้ซะมั่งว่าไม่อยากเสียแรงรัก


oh...น้ำเน่ายังกะละครหลังข่าวทีวี ..555+

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทักทายปะสา..เฮา

สวัสดีพี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาวอุบลฯ...

ทั้งที่บรรยากาศสุดแสนจะอบอ้าวซะเพียงใด ก็มิได้เป็นปัญหาต่อนาย ศ. แต่อย่างใดชีวิตความเป็นอยู่ก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆในแต่ละวันเรียนหนักขึ้นและก็หนักขึ้น..เฮ่อ..มันช่างดีซะนนี้กะไร..แต่ถึงกระนั้นผมก็มิได้ซีรงซีเรียสอะไรกับเรื่องพรรณนี้นัก..จะให้ทิ้งจะให้เบื่อก็คงเห็นจะเป็นไปได้ยากหนักแค่ไหนม๊านนนก็ต้องทน..
พี่น้องละครับ.. เป็นอย่างไรบ้าง.แต่ถึงกระนั้นจงภาวนาให้ตัวเรามีแรงฮึกสู้ให้ได้ ในสภาวะวิกิตแบบนี้..ตามแนวพ่อหลวงของเรา..อยุ่อย่างพอเพียงใช้เท่าที่ควรใช้..นะคร้าบบ..

สำหรับวันนี้ ศ. ต้องกล่าวคำว่า.. ซำบายดี เน้อ...(ไว้พ้อกัน)

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

IronMan 2(หนังซูม) ภาคอังกฤษ

IronMan 2(หนังซูม) -Sub Eng












ไอ รอน แมน 2 (UIP)

กำหยดฉาย : 29 เมษายน 2553
นำแสดงโดย : โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, กวินเน็ธ พลัลโทรว์, ดอน ชีลเดิล, สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน, แซม ล็อคเวล, คลาร์ก เกร็ก, มิกกี้ รู้ค, ซามูเอล แจ๊คสัน
กำกับ : จอน แฟฟโรว์ (Jon Favreau)
เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์

url: http://www.clubzonezaa.com/bbs/read.php?tid=3411

เรื่องย่อ Iron Man 2

อภิมหาภาพยนตร์ ไอรอน แมน 2 เสริมทีมดาราดังเพียบและอาวุธเกราะเหล็กไฮเทคยิ่งกว่า ระเบิดความมันส์พร้อมกันทั่วโลก

พาราเม้าท์ พิคเจอร์ส และ มาร์เวล เอนเตอร์เทนเม้นท์ ขอนำเสนอภาคต่อของอภิมหาภาพยนตร์ที่นำเอาซูเปอร์ฮีโร่สุดฮิตตลอดกาล "ไอรอน แมน" ซึ่งทีมงานที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมทั่วโลก กลับมาสร้างงานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยผู้กำกับ จอน แฟฟโรว์ และดารานำยอดฝีมือ โรเบิร์ต ดาวน์นี่ย์ จูเนียร์ กลับมาร่วมงานกันใน ไอรอน แมน 2

เรื่องราวภาคต่อที่คนทั่วโลกได้ทราบกันแล้วว่า มหาเศรษฐียอดนักประดิษฐ์อาวุธ โทนี่ สตาร์ค (แสดงโดย โรเบิร์ต ดาวน์นี่ย์) เปิดเผยตัวเองว่าเขาคือ ไอรอน แมน ซูเปอร์ฮีโร่ที่ช่วยปกป้องโลก เขาได้รับแรงกดดันจากทางรัฐบาล สื่อมวลชน และสาธารณชนต่าง ๆ ให้เปิดเผยเทคโนโลยีในการสร้างไอรอน แมน ให้กับกองทัพ แต่โทนี่เองกลับไม่ต้องการที่จะเผยความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเกราะเหล็ก นี้ เนื่องจากกลัวว่าเทคโนโลยีนี้จะตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว มีเพียงสาวคนสนิท เพพเพอร์ พอทส์ (แสดงโดย กวินเนท พัลโทรว์) และเพื่อนตายอย่าง เจมส์ "โรดดี้" โรดส์ (แสดงโดย ดอน ชีเดล) เท่านั้นที่เห็นด้วยกับเขา โทนี่จึงพยายามคิดค้นพัฒนาชุดเกราะเหล็กขึ้นใหม่ เพื่อเตรียมรับมือกับศัตรูหน้าใหม่ที่กำลังจะปรากฏ

ศ. แนะนำ (หากอยากโหลดไว โหลดแล้วเซฟม่ายเน่า แนะนำให้ไปโหลดบิตแทนนะครับ)
ทั้งนนี้และทั้งนั้นขึ้นยุกับความเร็วของ เน็ตด้วยด้วย เฮ่อๆๆๆ

อยากดูชัดๆ เสียงใสๆแนะนำให้ รอซื้อแผ่นแท้ครับ

วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

โปรแกรมล๊อค Handy drive

โปรแกรมล๊อค Handy drive คับพี่น้อง (กันบุคคลไม่หวังดี) ...ผมยังไม่ได้ลองเลย..



ใช้เข้ารหัสล๊อค handy drive ตัวโปรดไม่ให้ใครมาเปิดดูข้อมูลของเรา
http://www.uploadtoday.com/download.php?d55af6353a8211f487b6ebf892838f6b


วิธีใช้งาน

1. ติดตั้งโปรแกรม

2. ทำการติดตั้งเหมือนโปรแกรมทั่วไป

3. เลือก Drive ที่จะติดตั้งให้เลือกที่ Drive ที่เป็น Thumb Drive นะครับอย่างของผมคือ Drive F:/

4.เลือกภาษาเป็น English

5. Step ที่ 1 ตั้งรหัสผ่านอย่างน้อยหกตัว ทั้งสองช่อง

6. Step ที่ 2 ตั้งรหัสผ่านอย่างน้อยหกตัวอีกรอบ สำหรับการเข้ารหัส File แนะนำว่าให้ใช้รหัสเดียวกับใน Step ที่ 1 จะได้จำง่ายไม่มีลืม

7. เมื่อติดตั้งเสร็จจะปรากฎ icon บน task bar ของ Windows สีแดงๆในรูป

8.ไป ที่ My Computer แล้วเข้าไปใน Thumb Drive สร้าง Folder เตรียมไว้เก็บข้อมูลก่อนหนึ่ง Folder ในกรณีของผมผมสร้างแล้วตั้งชื่อว่า "โฟลเดอร์ข้อมูลลับ"

9.การเรียกโปรแกรมให้ Double Click ที่ icon บน Task bar แล้วจะปรากฎหน้าต่างให้ Log on

10. เมื่อโปรแกรมเรียกขึ้นมาแล้วจะมีหน้าตาเป็นรูป handy drive

11. ให้ทำการเอาไฟล์ข้อมูลที่จะเก็บลง Thumb Drive ไปใส่ไว้ใน Folder "โฟลเดอร์ข้อมูลลับ" ที่สร้างเตรียมไว้ล่วงหน้า

12.หลังจากนั้น ก็เลือกที่ การเข้ารหัสแบบ Folder ที่ตัวโปรแกรม Remora USB Disk Guard แล้วก็เลือกที่ Folder "โฟลเดอร์ข้อมูลลับ" เพื่อทำการเข้ารหัสไฟล์ที่เก็บใน Folder นั้นทั้งหมด

13. เรียบร้อยแล้วครับ !! พอเวลาเรามาเปิดดู Folder ที่ชื่อว่า "โฟลเดอร์ข้อมูลลับ" ที่เราเข้ารหัสไว้ ไฟล์ที่เก็บในนั้นจะเป็นไฟล์คล้ายๆพวกไฟล์ขยะ ไม่สามารถเปิดออกได้ แต่หากต้องการเรียกใช้ไฟล์เหล่านั้น ก็ต้องไปปลดล๊อคก่อนนะครับ


ลองดูเน้อพี่น้อง ดีไม่ดียังไงติชมได้ครับ

วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คำสอนหวงโป (ตอนที่ 1)



คำสอนฮวงโป


Artist: แปล ท่านพุทธทาสภิกขุ
ไฟล์ แนบข้อความ
ฟัง ชนิดของไฟล์: mp3 ๑.ฮวงโป1.mp3 (13.74 MB, 3358 views)
ฟัง ชนิดของไฟล์: mp3 ๒.ฮวงโป2.mp3 (13.73 MB, 3272 views)
ฟัง ชนิดของไฟล์: mp3 ๓.ฮวงโป3.mp3 (13.74 MB, 3187 views)
ฟัง ชนิดของไฟล์: mp3 ๔.ฮวงโป4.mp3 (12.93 MB, 2457 views)

คำสอนฮวงโป ฉบับภาษาไทย
ได้รับการแปลโดยท่านพุทธทาสภิกขุ
บันทึกเสียงโดยธรรมสภา และสถาบันบันลือธรรม

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พอเพียงกับ (ศ.สาลา)

พอเพียงกับ (ศ.สาลา)
ตอน: Windows XP SP3 Original



ลิงค์ตรงโหลดแรง.
http://www3.su.ac.th/~u09510368/winprogram/WinXP-Installer/WinXP_SP3_Original.nrg

วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

ฮาๆๆ ตามประสา นาย ศ.(สาลา) (ตอนที่ 2)

วิ่งตามผู้ชาย.......แรดจริงๆ

แหมแรดจิงๆ นะเธอ...







I got this Hi5 Layout from skin-hi5.blogspot.com

ฮาๆๆ ครับคลายเครียดกันหน่อย..อากาศก็ร้อนๆๆอย่าเครียดเลยครับ

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

2คำก็เกรียน 3คำก็เกรียน

เกรียนเสมอต้นเสมอ ปราย

อันว่าเกรี ยน นั้นมีอยู่ ช่วงวัยรุ่น
มัวหมกมุ่น จนครุ่นคิด จิตฟุ่งซ่าน
กิริยา และวาจา ส่อสัน ดาน
อันธพาล เที่ยวระราน ด่าผู้คน
ตอนเขาเรียน มันก็โดด มาเล่นเกม
สุขเกษม เปรมปรี ข้ามิสน
แม้น พ่ollม่ บุพการี จักยากจน
มิกังวล เพราะข้านั้น คือพันธุ์เกรี ยน

แต่ ละวัน ตัวมันนั้น อยู่ร้านเนต
เล่นเกม เสร็จ ก็เตร็ดเตร่ อยู่ตามห้าง
ใช้ ชีวิต ให้หมดวัน ไร้หนทาง
อนาคต จักร่วมสร้าง ชาติอัปจน
อันบางตัว มีแววชั่ว แต่แบเบาะ
เที่ยวปาก เปราะ สร้างศัตรู ทุกแห่งหน
พอพบเจอ ตัวจริงแท้ แต่ละคน
โถไอฅน นึกว่าแน่ ที่แท้เกรี ยน

บางผู้นั้น ตัวก็เล็ก เท่าลูกหมา
จะ ปากกล้า ก็จำเพาะ ในหมู่มาก
พออยู่ตัว คนเดียวนั้น ก็หงอคราง
ดีแต่ สร้าง วีรกรรม ระ ยำ ชน
อันเด็กเกรี ยน ทั่วทั้งหลาย พี่ขออย่าง
จง หยุดสร้าง ชื่อเสียเถิด จะเกิดผล
พี่ เตือนแล้ว ขอให้น้อง แต่ละคน
หยุด ซักหน ก่อนเจอส้น กระทืบเอย...

พอหอมปากหอมคอ (บางครั้งชีวิตจะไปหลักการกับมันซะทุกอย่างก็หน้าเบื่อ)

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

อากาศก็ร้อน..ค๊นนนก็ร้อนนน (กับแนวคิดง่ายๆที่เราก็ ช่วยโลกได้)

อากาศก็ร้อน..ค๊นนนก็ร้อนนน


อากาศร้อนจัดๆ แทนที่จะแก้ด้วยการเปิดแอร์ทั่วบ้าน เพิ่มความร้อนให้บรรยากาศของโลกเข้าไปอีก ลองหาวิธีคลายความเครียด คลายร้อนด้วยอาหารกินดูบ้าง

ในฤดูร้อน คนโบราณที่ยังไม่รู้จักเครื่องปรับอาหารเขาจะมีวิธีคลายร้อน เท่าที่เรารู้กันก็ การนุ่งห่มผ้าฝ้าย หรือสมัยก่อนก็ไม่ต้องใส่เสื้อ ใช้พัดใบลานโบกไล่ความร้อนหรือ

ไม่เช่นนั้นก็อาบน้ำประดินสอพองให้เย็นลง แต่เท่านั้นยังไม่พอ คนไทยยังมีอาหารหน้าร้อนรับประทานเพื่อดับความร้อนด้วยเช่น ข้าวแช่ นี่เป็นอาหารของชาววังโดยเฉพาะ การเอาข้าว

ใส่น้ำลอยดอกมะลิใส่น้ำแข็งรับประทานกับเครื่องแนมนั้นคลายร้อนได้-แต่สมัยก่อนชาวบ้านไม่มีน้ำแข็งชาวบั้นจึงรับประทานปลาย่างแตงโม ยำแตงกว่า ต้มฟัก อาศัยความฉ่ำของน้ำแตงกวาหรือฟักมาคลายร้อน

รับประทานแกงส้มซดน้ำแกงเข้าไปเพิ่มน้ำในร่างกายให้ช่วยระบายความร้อนออกรับประทานต้มโคล้งเพื่อใช้หอมแดงมาเพื่อขับเหงื่อ

สำหรับคนสมัยใหม่ บิ๊ก ศ.ก็มีวิธีไอเดียใหม่ๆมาแนะนำ เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารคลายร้อนกัน

วิธีที่1 รับประทานอาหารไทยๆ ดีกว่าอาหารฝรั่ง

อย่างไร รึ .... เมื่ออากาศร้อนจัดๆอาหารจะต้องมีไขมันต่ำให้คลอลีนมากกว่าข้าว ผักผลไม้ถึง 2เท่า ตัวหากเรารับประทานอาหารมันๆ ร่างกายจะร้อนรุ่ม อากาศบ้านเรานะ..เหมือนบ้านฝรั่งซะที่ไหนล่ะร้อนนนนตับแตกยิ่งเป็นช่วงนี้อยู่ที่ไหนก็ร้อนไปหมด แต่ถ้าหากอากาศก็ยิ่งร้อนอยู่แล้วเพื่อนๆขืนรับประทานพิซซ่า ลาซานย่า ซีส ดื่มนม นมเปรี้ยว ยิ่งทำให้ร้อนกว่าเดิมสู้แล้วเรารับประทานอาหารไทยๆบ้านเราดีกว่า อย่างส้มตำ(เอ้า..บางคนทักขึ้นมา บ้าส้มตำอ่ะนะ คลายร้อน..)นอกจากนี้ยังมีน้ำพริก ยำ ต้มยำ ฯลฯ อาหารเหล่านี้แคลอรีต่ำรับประทานแล้วจะไม่ร้อน ..

พึงสังวรว่า การรับประทานอาหารข้ามวัฒนธรรมยามร้อน(ด้วยอีก)จะทำให้ร้อนจัดยิ่งขึ้น


(มีอีกหลายวิธี อีกหลายอย่าง แต่ทว่า กระผม ขี้เกรียจพิมพ์ ) หากเพื่อนๆสนใจอยากทราบว่า อาหารคลายร้อนนี้มันมีอะไรบ้าง นอกจากอาหารแล้วผลไม้ได้ไหม(บิ๊ก ศ. ขอบอกเลยว่า มีครับ ผลไม้ของไทยเราก็ช่วยคลายร้อนได้) เพื่อนๆสามารถค้นหาข้อมูลใน Google ในหัวข้ออาหารคลายร้อนได้ อีกอย่างจะเป็นการดีไหมถ้าเราช่วยโลกด้วยในเวลาเดียวกัน แล้วยังได้ประโยชน์ แถมอิ่มท้องด้วย

สำหรับวันนี้ บิ๊ก ศ.ก็ต้อนกล่าวคำว่า ซำบายดี ครับ

(ที่มาจาก วรสาร SME Inspired ของ K EXCELLENCE ธนาคารกสิกรไทย VOL.3/NO.10/APRIL-JUNE 2009)

ลูกเทวดา หรือ..(ลำนำชีวิต..ของคนนอนข้างทาง) ตอนที่ 1

ลูกเทวดา หรือ..

เช้าวันหนึ่งที่บ้าน ของบิ๊ก ศ.ในขณะที่กระผมกำลังหลับ..สะไหล อยู่นั้นเอง(มันเหมือนมีเสียงๆหนึ่งดัง เบาอยู่ในหูของผม ....ลูกชาย คนนี้ เดี่ยวนี้ มัน มาดแมน..) ยังนี้อ่ะ ดังอยู่ประมาณพักหนึ่ง คือตอนนั้นคงจะเป็นความรู้สึกกึ่งหลับกึ่งจะตื่น เสียงนั้นดังอยู่พัก ถัดมาจากนั้นไม่กี่วินาที ที่นี้ผมเริ่มจะมี สติ สะตัง ขึ้นมาแล้ว แถมบ่นพึมพำใน ใจ.....โอย มันจาอารัย กัน นักกันหนาว่ะ.....เฮ่อ..เซ็งโคตรเลย...ที่นี้ดังเลยครับมาแรงเลยที่นี้..ลูกเทวดา ลูกฮักลูกแพง ลูกคำ ลูกคูณ ....โอยยยใครมันแต่งเพลงนี้ความจริงมันไม่ได้ทำให้ผมสะทกสะท้านอะไรหรอก ปัญหาก็คือมันมาเปิดทำ_+|_##$%#%#$%$#^%&^* อารัยตอนนี้กูจานอน..พออาบน้ำล้างหน้าแปลงฟันเสร็จมาถามคนข้างบ้านก็เลยได้รู้มันเพลงของ..น้าสนุก สิงห์มาตร Single ใหม่ของน้าแก..แถมคนที่ผมไปถามก็เป็นน้าที่รู้จักกับผมเป็นอย่างดี แก่เลยบอกผมก่อนจะเดินมากลับมาบ้าน ว่า มึงอ่ะ ไอ้ลูกเทวดา..ผมนึกในใจ ตูมีปีก รึงัย ว่ะ แต่กูก็บินไม่ได้นี้หน่า ลองๆจับใจความของเพลงก็เลยได้รู้ซะทีว่า เพลงมันบอกถึงลูกชายคนหนึ่งไม่สิ คนเขียนคงจะอยากให้ เด็กวัยรุ่นที่ฟังเพลงนนี้ แล้วคิดได้..อะไรประมาณนนี้ โอ..แต่เชื่อเหอะผมก็ไม่ใช่คนกงคนแก่ที่ไหนผมก็เปงวัยรุ่นเหมือนกันนี้แระ มังไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก มากกว่านั้นแทนที่จาหยุดคิดยิ่งทำให้มังเปิดดังๆ แล้วโยก ใส่ ซะนี้


ผู้ใหญ่บอกเด็กถึงโทษภัยที่เด็กกำลังจะเจอ..(ในอนาคตอันใกล้)และไม่ใช่เรื่องที่พูดให้ฟังไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีหรือเรื่องร้ายคนที่พูดมาให้ฟังก็ล้วนๆโดนกันมาทั้ง ทั้งนี้ก็หวังให้เด็กฟังแล้วเป็นอุธาหรณ์สอนใจเชื่อไหมครับถ้าลองย้อนเวลากลับไป สมัยครั้งกระโน้นนนนนนนนผู้ใหญ่ที่ว่านี้แระ สมัยไหมนั้นท่านก็เปงเด็กหนุ่มเหมือนพวกเรานี้แระ และก็มีอีกท่านหนึ่งซึ้งปัจจุบัน ท่านที่กล่าวมานนี้อาจจะเป็นคุณตาหรือคุณยาย ท่านก็เคยบอกท่านผู้ใหญ่เหมือนกัน..(ทีนี้ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงที่สิ่งที่คุณตาคุณยายบอกท่านผู้ใหญ่ในวันนั้นมีท่านผู้ใหญ่สักกี่คนกันเล่าที่ประพฤติปฏิบัติตาม) บางคนอาจจะคิดว่าอ้าววเราพูดอย่างนี้ไม่ถูกนะ มันเหมือนเป็นการดูถูกคนที่เค้าอุตสาห์หวังดีกับเรา แต่เชื่อเถอะครับที่กระผมเล่ามาทั้งหมดนี้หาใช่การทำตัวเป็นเด็กหัวรั่นหรือทะลึ่งดึงดันไร้ความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่ ให้คิดซะว่าเวเทนี้เป็นเวทีสนทนาพาทีถึงเรื่องการเป็นบุคคลคนหนึ่งไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นคนที่ดีในสังคมหากแต่เป็นคนหนึ่งที่อยากให้สังคมสงบสุขก็แค่นั้น...ถามว่าแล้วที่ผู้ใหญ่หลายๆท่านบอกไม่ดีรึ ดีครับผมตอบแบบฉะฉานเลยดีมากๆ และมันจะดีที่สุดถ้าคนที่นั่งฟังท่านเล่าในวันนั้นนำคำที่ได้ฟังในวันนี้ไปประพฤติปฏิบัติ คิดเป็นเปอร์เซ็นมีไม่กี่สิบเปอร์เซ็นที่เด็กวัยรุ่นทั่วโลกจำแล้วนำเอาไปทำทุกๆขั้นตอน เพราะอะไรเหล่าถึงเป็นเช่น ก็เพราะคนไง คนเรามันไม่เหมือนกันถูกตรงที่ อาจจะเกิดมาจากท้องแม่เดียวกัน แต่ทว่านิสัยแต่ละคนต่างกันคนละขั่ว นี้ลองคิดดูสิถ้าเป็นคนที่ไม่ใช่พี่น้อง มันจะขนาดไหน คนบอกน่ะก็บอกได้ไม่ผิดส่วนคนฟังถามว่าถ้าไม่รับเอาสิ่งที่คนคนนั้นพูดละจะผิดไหม ไม่ผิดครับเพราะท้ายที่สุดแล้วที่ปรึกษาด้านกรองข้อมูลคนสุดก็คือคุณ เพราะไม่ใช่ใครที่ไหนที่จะเอาสิ่งที่คุณจดจำมาไปใช้ ก็คือคุณแล้ว สิ่งนั้นคุณคิดว่าคุณทำได้รึเปล่าคุณทำแล้วมันมีความสุขหรือเปล่า มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ทุกอย่างเมื่อได้กระทำในสิ่งที่มันย่อมจะได้ผลดีและเกิดประโยชน์สูงสุด ยกตัวอย่างง่ายๆต้นไม้ต้นหนึ่งโดยธรรมชาติต้นไม้อะไรก็แล้วการเจริญเติมโตของเค้าต้องสูงขึ้นยาวขึ้นเราหาเชือก สักเส้นไปผูก สิ แล้วก็ดึงต้นไม้นั้นให้โค้ง นั้นอาจจะเป็นความต้องการของเราว่าจะทำให้ต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นไม้พิเศษพอโตแล้วไม่เหมือนต้นอื่นมีลักษณะโค้งงอ น้อยหนักที่ต้นไม้นั้นพอโตแล้วจะสวย น้อยหนักที่ต้นไม้เหล่านั้นจะเติบโตสวยงามและบางทีอาจจะไม่โตเลยด้วยซ้ำ


บางคนรู้ เข้าใจ บอกได้ แต่ให้ทำจริงๆก็ทำไม่ได้ บางคนทำได้เป็นบางอย่าง บางคนทำได้อย่างดีทำได้ทุกขั้นตอนคุณคงจะสงสัยแล้วกระผมเป็นใครเป็นเทพ รึ หรือคนดีที่โลกรอ..เปล่าเลยผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สุดแสนธรรมดาไม่มีอะไรวิเศษ บางเรื่องที่ผมเขียนทุกเรื่องก็ล้วนมาจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอะเจอ ได้จากการสนทนาระหว่างคนหนึ่งกับอีกคน มาจนถึงบัดนี้ผมเองก็ยังเป็น นายศ.สาลาคนเดิมไม่ได้รับรางวัลนักเขียนดีเด่นหรือรางวัลลูกกตัญญูสักอย่าง ยังคงโดนแม่ดุ โดนอาจารย์ดุ โดนปัญหาต่างๆนาๆถาโถมเข้าในชีวิตทุกวัน บางวันร้องไห้ บางวันเมาหัวราน้ำ บางวันก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เอ้า...แล้วสิ่งที่ได้เล่ามาทั้งหมดก็ไม่ได้ทำอะไรให้นายมีชีวิตดีขึ้นเลยนี้ โอ..ไร้สาระ ถามคุณสักอย่างเถอะแล้วสิ่งไหนเล่าที่คุณว่ามันคือความสุขล่ะสิ่งไหนเล่าคือสิ่งสุดยอดที่มนุษย์ต้องการ ที่ว่าความสุข มันไม่ได้มาจากการเป็นมหาเศรษฐี หรอกไม่ได้มาจากการเป็นคนที่คนทั้งโลกรู้จักหรอก หากแต่มันเป็นสิ่งที่คุณน่ะ ทำแล้วคุณเองรู้ว่านี้ล่ะ นี้ล่ะสิ่งที่เราชอบเราทำแล้วมีความสุข มันอาจไม่ได้มาจากการที่เราฟังจากใครเค้ามา แต่มันอาจมาจากการที่ เจอะเจออารัยต่อมิอารัย..ทุกๆวัน ที่มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปสอนเรา ว่านี้แระคือสิ่งที่เราอยากทำ นี้แระสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขกว่าสิ่งไหนๆ


มันไม่ได้ผิดที่คนคนหนึ่งจะผิดพลาดในชีวิต มีร้องไห้เสียน้ำตาในบางครั้งบางเวลา เราไม่ใช่เทพไม่ใช่ท่อนไม้ท่อนซุงนิ ที่พอเวลาเจอะปัญหาหนักจะได้เชยๆ ตอนเสียใจก็เสียใจ เราก็คงต้องปล่อยมัน พอตอนมีความสุขเราก็สุขให้เต็มที่ มันไม่เสียใจไปตลอดชีวิตหรอกและมันก็จะไม่Happyตลอดไปเหมือนกัน ขอเพียงวันนี้เรารู้ว่า เราทำอะไรอยู่และเราทำเพื่อใคร...

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

Windows Diamond XP SP3 2010




คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดจริง

Windows Diamond 2010 Lite.

CPU: Celeron 2.0 Ghz
Ram: 512 Mb
VGA: 32 Mb Onboard
HDD: 2 Gb

Windows Diamond 2010 Oiginal.

CPU: P4 2.0 Ghz
Ram: 1 Gb
VGA: 64 Onboard
HDD: 20 Gb

Windows Diamond 2010 Plus, Windows Diamond 2010 Utilities.

CPU: P4 2.0 Ghz
Ram: 1 Gb
VGA: 64 Onboard
HDD: 20 Gb

Hostfix Update 28/06/2009 :



Homepage : http://itvinasoft.com/

Download

Part 1 : http://www.mediafire.com/download.php?9k012eyzwgj

Part 2 : http://www.mediafire.com/download.php?hmtbe3m2maz

Part 3 : http://www.mediafire.com/download.php?1xvxejyzyjo

Part 4 : http://www.mediafire.com/download.php?wwtxcdmymu2

Part 5 : http://www.mediafire.com/download.php?egjctxhqzow

Part 6 : http://www.mediafire.com/download.php?bw3hu3eginz

Part 7 : http://www.mediafire.com/download.php?35uwey759ht

Key : DP7CM-PD6MC-6BKXT-M8JJ6-RPXGJ

Credit : MediaFile

ปล.โหลดไม่ได้ยังก็เมลมาหา ศ.ล่ะกัน khonbaba_@hotmail.com/5bathcap@gmail.com

เพื่อนกู..รักมึง..ว่ะ (มิตรภาพ+เหล้าขาว ตอนที่ 3)

ตอน : มิตรภาพ มิอาจหวนคืน
โม้โดย: บิ๊ก ศ.(สาลา)

---------------

คงไม่ปฏิเสธว่า เพื่อนรัก

ยากนักที่จะหาพบเจอได้

มิควรหรือ ที่เราควรจะ รักษา แต่ไม่ ครอบครอง

มิควรหรือ ที่เราควรจะ ใส่ใจ แต่ไม่ สอดรู้

มิควรหรือ ที่เราควรจะห่วงใย แต่ไม่ หวังผล

มิควรหรือ ที่เราควรจะ ให้เกียรติ แต่ไม่ ระแวง

บางครั้ง กว่าที่เราจะรับ รู้

เพื่อนรัก ก็จากเราไปไกลแสน ไกล

ทิ้งไว้แค่ภาพถ่ายเก่าๆ กับความรู้สึก

ที่แม้จะแลกด้วยน้ำตา....

ก็ไม่อาจจะไขลานกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้

นิยามของคำว่าเพื่อน..


แด่ลมหายใจ และจิตวิญญาณ

แด่ทุกอย่างใน โลกนี้ ที่ส่งเสริม ช่วยแต่เติมชีวิตให้สดใส..

แด่ทุกอย่างใน โลกนี้ที่ขาดไป แด่หัวใจ ที่อดกลั้นไม่หมดแรง

แด่ทุกๆอย่างที่ไม่ เคยเป็นจริง แค่ความหวัง ศรัทธา จิตวิญญาณ บิ๊ก ศ.(สาลา)

บางคนค้นหาความรักมา ทั้งชีวิตก็ยังไม่เจอ..บางคนเจอมันเข้าจังๆแล้ว ไม่รู้ว่าด้วยเหตุอะไร ปล่อยให้มันหลุดมือไปซะงั้น (แล้วคุณล่ะ เคยเจอมัหรือเปล่า ความรัก)
ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย..

วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

เอาใจคนชอบ โพทต์ภาษา คาราโอเกะกานหน่อย


ตามลิงค์เลยนะครับ(เก็บมาฝาก)

http://www.houvthak.com/6board/index.php?topic=487.0
ที่เห็นพูดกัน เอาคำที่ใช้กันบ่อยๆ

kuy = ?
kvy = ?

ส่วน คำบางคำที่ไม่รู้จะเขียนเป็นภาษาอังกฦษยังไง

มืง = ?
เลย = ?
แล้ว = ?
มรึง=mueng
เลย=loei
แล้ว=laew
kuy ollo มันคือ ดอ ครับ
kvy มันคือ คุณ เอ้ย ควาย
ong = ลอง
khwai = ควาย<<<< เขียนตาม ป้ายรถไฟฟ้าสถานีสะพานควาย gai = ไง gum = กรรม sad = สัด sard = สาด heer or here = เหรี้ย lao = ลาว book = บุก Yet do = เญ็ดโด Kraen ทอล์คกิ้งดิกกรูอ่านว่า เครียน Krean ทอล์คกิ้งดิกกรูอ่านว่า ครีน Graen ทอล์คกิ้งดิกกรูอ่านว่า เกรียน
Grean ทอล์คกิ้งดิกกรูอ่านว่า กรีน sud สุด sard สาด teen ทีน-ตีน laew = แล้ว ( คนไทย )

DotA เค้า.. leaw = เลี้ยว ( คนจีน ) มันมาตุ๋ยแล้ว~ = mun mar tui laew~ มันมาตุ๋ยเลี้ยว~ = mun mar tui leaw~ กาก~ = kak กาก สัด ~ = kak sud hots ~ = ฮ็อต(อารัยว่า หรือว่า โหด) มันต่างกัน ที่เชื้อชาติ ความหมายเดียวกัน

จะอะไรๆก็แล้วแต่จะรับวัฒนธรรมอะไร มาก็แล้วจงอย่าลืมว่า จริงๆแล้วเราคือคนไทย ..ต้องพูดภาษาไทยอยู่วัยยังค่ำจะให้ดีพูดได้ฉะฉานนั้นแระดี (คนอิสานบอกว่า)อยู่ม่องได๋ ม๋องได๋ กะอย่าลืม ชาตจะของ อย่าสิลืมกำพืด จะของ .


update: sorsara 17/04/2010

วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

เกร็ดความรู้จากรั่วมหาลัย (ตอนที่ 1)

เรื่อง: สิทธิเสเรีภาพ+น่าตา
โม้โดย: บิ๊ก ศ.(สาลา)

100 ล่ะ 80เปอร์เซ็นของมนุษย์ทุกคนในโลกใบนี้เห็นด้วยกับการ ให้สิทธิเสรีภาพเท่าเทียบกันไม่ว่าคุณจะเป็นชนชาติไหนการมีสิทธิมีเสียงที่ จะพูดจะฟัง ทำได้เท่าๆกัน แต่ทว่า ยังมีบางกลุ่มบางแก๊งยังคงยึดอยู่กับอุดมการณ์ที่ว่า(เมิงเปงน้อยเมิงก็ต้อง ฟังกู..)ซึ้งถ้าจะให้พูดว่ามันหายไปนานแล้วก็ไม่ได้เพราะกระผมเองยังเห็น อยู่ทุกวันนี้

และการ แบ่งสิทธิเสรีภาพจะว่ามันก็ไม่ยาก เพราะอะไรรึ ..มนุษย์ที่เห็นๆกันอยู่ก็มีสองเพศคือเพศชายกับเพศหญิงการแบ่งสิทธิเสรีภาพ ก็แตกต่างกันออกไป ทำไมอ่ะก็เท่าเทียมกันมิใช่ หรือ..อืมๆมันเท่าเทียมกันนะ ที่แตกต่างนั้นไม่ได้หมายความว่าคนละซีกหรอกครับก็ใกล้เคียงกันนั้นแระ แล้ว...มันเกี่ยวกับน่าตาตรงไหนว่ะ เกี่ยวโคตรๆเลย มาๆเข้าเรื่องเลยละกัน พี่น้องน่าจะเคยเห็นในเว็ปบอร์ด-Blog -Chat -อารัยก็แล้วแต่ หรือแม้กระทั้ง Hi5 สังเกตุง่ายๆเลย ตรง ไหน Post Comment ครับ ถ้ามีสุภาพสตรีท่านไหนก็แล้วแต่.(น่าตายังกะนางฟ้า..ว่ะ..แอ๊บโคตรๆ น๊า ร๊ากกกกก) มาโพทต์ หรือคอมเ้ม้นไว้ จาคอมเม้นอารัยก็แล้วแต่ เธอจะเปงผู้ถูกเลือกทันที..โอโห่ให้ตายเถอะ..ชายครับ ชาย ม่ายรุมังหลงป่าหลงดอยมาจากไหน..แข่งกันโพทต์ครับ..น่ารักนะคร้าบบบ..ชื่อไร หร๊า..ดีคร้าบบบ..พ่น้องคงพอจานึกออกนะคอมเม้นข้างล่างอ่ะ ที่เค้ารอพวกเทพทั้งหลายอ่ะ รอไร มีปัญหาไงเค้ารอฟังคำตอบยุ น่านนนงามไส้แล้วไหมล่ะ..ทั้งที่ท่านสุภาพสตรีท่านนั้น..ม่ายได้มา ทำ.xx*-*-x*-*xc-x*-c*-x*อารัยเล้ยยย..เจ้แก่ก็แค่แวะมาทักทาย..(อันนี้จาไป ห้ามเค้าก็คงใช่มิ) ใครๆก็ว่าทุกวันนนี้เปลี่ยนไป..ผมว่าม่ายใช่อ่ะ..แต่ก่อนมันก็มีอย่างงนี้ เหมือนกันเพียงแต่ไม่เห็นบ่อยขนาดนี้ ถามว่าผิดรึ..ที่เลือกคนฯ่าร๊ากกกก..อ่ะ ตอบได้อย่างฉะฉานว่าม่ายผิด(บางครั้งตูก็ยังทำเล้ยยยย..เอ้า..)สิทธิครับ ส่วนบุคคลครับจาไปห้ามเค้ามิ ได้ต้องโพตท์ฉะเพาะคนนี้นะ ต้องพูดอย่างนี้นะ ทำอย่างนี้นะ พูดไปยาว(อีกอย่างประเทศเราวววอ่ะ ประชาธิปไตย เน๊อะ)

(เดี๋ยว มาต่อกันวันหลังครับ..ปายเล่งน้ำก่อนนะ..)

วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

ขุนแพน+โคโยตี้

ขุนแพน+โคโยตี้ (กับความเชื่อโบราณ)



ตามข่าว

เลขาฯเจ้าอาวาส-พระปก ครอง และผู้เกี่ยวข้องของวัดเซิงหวาย

ที่ จัดทำพระขุนแผน รุ่นโคโยตี้ เปิดแถลงข่าวยันเป็นเรื่องส่วนตัวของพระอาจารย์อึ่ง ที่ปลุกเสกเพียงลำพังหลังลูกศิษย์นำพระรุ่นนี้มาขอให้ช่วย ผู้จัดทำเผยได้แบบมาจากเพื่อนจึงนำไปทำและขอให้อาจารย์อึ่งช่วยปลุกเสก ส่วนคณะผู้จัดทำรุ่นที่ 2 รับไม่ตั้งใจแต่มีชาวบ้านที่นำไปบูชาแล้วทำมาค้าขึ้นอยากได้อีก จึงตัดสินใจผลิตขึ้นมาใหม่แต่ตัดภาพอุจาดบางส่วนออก โต้วุ่นให้เรียกเครื่องรางเพราะไม่มีรูปพระมาเกี่ยวข้องเลย เป็นเพียงภาพผู้ชายสะพายดาบและอุ้มเด็กเท่านั้น



ความ คืบหน้าเหตุอื้อฉาวในวงการสงฆ์เกี่ยวกับการปลุกเสกพระขุนแผน รุ่นโคโยตี้ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่วัดเวตวันธรรมาวาส (วัดเซิงหวาย) พระมนตรี ประภาธโร เลขานุการเจ้าอาวาส, พระอาจารย์สมชาย ธัมมลโต พระปกครองวัด, นายสมศักดิ์ ว่องไว ไวยาวัจกร, นายรัชชานนท์ พวงสมบัติ ผู้จัดทำเครื่องรางขุนแผนโคโยตี้ รุ่น 2 และนายสมเกียรติ ทองสุก ผู้จัดทำเครื่องรางขุนแผนโคโยตี้ รุ่น 1 ร่วมกันแถลงข่าวกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้น

พระมนตรีชี้แจงว่า

ทาง วัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยว ข้องในการจัดทำเครื่องรางขุนแผนรุ่นดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องของลูกศิษย์ที่มีความศรัทธากับพระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล (พระอาจารย์อึ่ง) เป็นการส่วนตัว

ส่วนพระ อาจารย์สมชายกล่าวถึงความเหมาะสมเรื่องเครื่องรางดังกล่าวว่า

เท่า ที่สอบถามพระอาจารย์อึ่งทราบว่าไม่รู้ว่าพระภายในกล่องเป็นอะไร ทราบแต่เพียงว่าเป็นพระขุนแผน เมื่อเปิดออกมาดูก็พบว่ามันไม่เหมาะสม จึงได้แจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ไป แต่ภายหลังเมื่อมีการแจกออกไป ปรากฏว่าพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณวัดนำไปบูชาพบว่าทำมา ค้าขายดีขึ้น ต้อง การอยากได้อีกจึงสอบถามมาทางวัด แต่ทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นการกระทำของพระอาจารย์อึ่งที่นั่งอธิษฐานจิตภายในกุฏิของท่านแต่เพียง ผู้เดียว

นายรัชชานนท์ ลูกศิษย์พระอาจารย์อึ่งกล่าวว่า

ขุน แผนโคโยตี้นั้นไม่ขอเรียกว่าเป็นพระขอใช้ว่าเป็นเครื่องราง ยอมรับว่าเป็นผู้จัดทำรุ่นที่ 2 เนื่อง จากวัดต้องการบูรณะซ่อมแซมหลังคาวิหาร ก็มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ทราบข่าวบริจาคเงินซื้อกระ เบื้อง โดยมีคนต้องการขุนแผนโคโยตี้ เป็นจำนวน มาก จึงจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทน โดยรุ่น 2 นี้ตัดเอารูปผู้หญิงและปลัดขิกออก เหลือเพียงแผ่นด้านหลังเรียบธรรมดา พร้อมฝังแร่ลงไปในเครื่องราง



"หลังจากที่เป็นข่าวออกไป อยากกราบขอโทษต่อบรรดาชาวพุทธ เสียใจที่ทำให้ทางวัดและพระอาจารย์อึ่งเสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเกิดเรื่องพระอาจารย์สุเทพเดินทางไปกราบเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเจ้า คณะแขวงและพระชั้นผู้ใหญ่ ตอนนี้ยังไม่สั่งลงโทษเป็นลายลักษณ์อักษรมายังพระอาจารย์ สุเทพแต่อย่างใด" นายรัชชานนท์กล่าว



ด้านนายสม เกียรติ ผู้จัดทำเครื่องรางขุนแผนโคโยตี้รุ่นแรกกล่าวว่า



ได้ แบบพิมพ์มาจากเพื่อน เพื่อทำแจกคนรู้จักกัน จึงนำมาให้พระอาจารย์ สุเทพประมาณ 2,000 ชิ้นเพื่ออธิษฐานจิต เพราะรู้จักกับพระอาจารย์สุเทพเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น

นายสมศักดิ์ซึ่งทำหน้าที่ไวยาวัจกร ของวัด กล่าวว่า

สำหรับ พระอาจารย์อึ่งเป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก ข่าวที่ออกไปน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ขอยืนยันว่าวัดไม่ได้ทำพิธีปลุกเสกแต่อย่างใด ที่สื่อนำไปลงว่าเป็นพระขุนแผน ไม่น่าจะใช่ เพราะพิมพ์ปรากฏรูปผู้ชายสะพายดาบ อุ้มเด็กจะไปเรียกว่าพระได้อย่างไร

วัน เดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงพระอาจารย์ อึ่ง ซึ่งลูกศิษย์ใกล้ชิดแจ้งว่าพระอาจารย์มีกิจธุระเดินทางไปต่างจังหวัดไม่ สามารถมาแถลงข่าวได้ ขณะ ที่แถลงข่าวมีประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในละแวกวัดได้มาร่วมฟังการแถลงข่าวกัน เป็นจำนวนมาก




คนเรานี้ก็ฉลาดเน๊อะ..รุจักเอาความเชื่อโบร่ำโบราณมาผสมผสานกับ วัฒนธรรมสมัยใหม่
(เท่าที่ได้ยินคนพูดปาก)
ต่อปากเค้าขลังนะครับ โอ..โห่ มีแล้ว ร่ำรวยขายของดี เปงเทน้ำเถท่า..(5++ เห็นว่าทำมาแค่2รุ่น)




ยังไงก็ตามแต่มีเสียงวิพากษฺวิจารณ์กันต่างๆนาๆว่า (เฮ่อ..สังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนไปถึงขนาดนนี้เชียว) มังทำให้ศาสนาเสื่อมโทรม มังเปงการะกีณี..อีกฝ่ายก็ออกมาแก้ตัว เฮ้ย..อธิบายว่าขุนแผนม่ายใช่พระนะเปงเครื่องลาง(อ่า ต้องทำความเข้าใจกันหน่อย) และยังย้ำบอกอีกว่า โหดกว่าที่ทำกว่านนี้ก็มีแค่นี้ ยังธรรมดาๆ ก็คงจะมายถึงปลัดขิกฯลฯน่านนั้นแระ

สุดท้ายมันก็ต้องขึ้นอยู่กับบุคคลว่าจะใช้วิจารณะญานในการดู การฟังขนาดไหน..อีกอย่างประเทศไทยอ่ะ ประชาธิปไตย..(เสียงข้างมากยุแล้วพี่น้อง) ที่ตาเห็นอาจจะไม่อย่างที่คิดก็ได้..ใครจะรู้

ขอบคุณเนื้อหาสาระดีจาก : หนังสือพิมพ์ข่าวสด



ซำบายดี

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

"อยู่ให้คุ้ม"..ประโยคสุดท้ายของเพื่อน คนหนึ่ง



เคยมีความรู้สึก เบื่อๆเซ็งๆกับชีวิตไหมครับ..(ก็แบบว่าจะมองไปทางในก็คักหูคัดตาไปหมด)ทั้ง วันอยู่กับความเซ็งและความเบื่ออ่ะ.ผมเองก็ไม่รู้นะครับว่าผมจะไปชีล้งชี เรียสอะไรมันขนาดนั้น..คงเป็นเพราะอารมร์ช่วงนั้นมันพาไปประกอบกับสภาพแวด ล้อมที่สุดแสนจะเป็นใจ..555+ โป๊ะเชะ..คับบางวันเล่นเอาผมไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร (บางครั้งผมเองยังอดสงสัยในตัวเองไม่ได้ว่า)..นี้กูบ้าหรือเปล่า วะ..?บางครั้งบางเวลาก็จะร้องออกมาดังให้มานนดังๆ (ผมว่า ผมเปงหนักแล้วนะเนี๊ย)-ไม่ทราบว่าบรรดา เพื่อนๆ พี่ๆเคยมีความรู้สึกอย่างนี้หรือเปล่า..(คงไม่ละเน๊อะเพราะแต่ละคนดูอารมณ์ กัน ทั้งนั้น คงจะไม่เครียสอะไรมากมาย) แต่พอเราลองใจเย็นๆ ควบคุมสติอารมณ์ของเรานิดๆ หาที่เงียบๆนั่งพิจารณาเรื่องหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตในแต่ล่ะวัน ..เอ้าจิงับผมลองทำมาแล้วคิดทีล่ะ เรื่องไมต้องรีบ เวลานั้นอาจจะมีหลายเรื่องถ่าโถมเข้าแบบตั้งตัวไม่ทัน ใจเย็นคับ..เรื่องบางเรื่องเราก็ต้องยอมมันบาง และเรื่องบางเรื่องจะไม่ยอมมันเลยก็ไม่ได้ (เอ่อ..งงวะ มันพูดเข้าใจยุคนเดียวเลย์อ่ะ)ผมอาจจะดูๆเหมือนคนไม่เอาไหน(ไม่ใช่ดูเหมือน มันใช่เลย ล่ะ 55+)
แต่เชื่อเถอะครับ ปัญหาทุกๆปัญหาล้วนมีทางออกทั้งนั้น ค่อยๆคิดค่อยๆทำ บางเรื่องเราหาที่ปรึกษาหาทางแก้ไขกับคนอื่นได้/ แต่เรื่องบางเรื่องเราก็ต้องแก้ไขปัญหาที่มันเกิด ด้วยตัวเราเอง เหมือนที่เค้าว่า ถ้าไม่รู้จักเจ็บก็คงไม่รู้ซึ้งถึงความสุขใจ..
แล้วเราจะรู้ว่าในเรื่องที่สุดแสนจะเซ็งสุดแสนจะเบื่อหน่าย..มันมีเรื่องดีๆ และก็อะไรดีให้เรา คิด และทำอยู่ เพราะหากชีวิตของคนเราราบรื่นตลอดไปเคยผิดหวังอะไรเลย.มันก็เปงแค่การใช้ชีวิตไร้สาระไปวัน..และมันคงจะที่มาของคำ นิยามที่ ว่า (อยู่ให้คุ้ม) ที่เพื่อนคนหนึ่งที่ฝากผมไว้..ในวันนั้น..

สุดท้าย ท้ายสุด อยากฝากเพื่อนๆทุกคน ว่า อย่าไปซีเรียส ครับ สนุกกับมันเข้าไว้ สู้ นะ ครับ...
คนท้อไม่แท้ คนแท้เค้าไม่ท้อ

เพื่อนกู..รักมึง..ว่ะ (มิตรภาพ+เหล้าขาว ตอนที่ 2)



ปรัชญาของคำว่า
เพื่อน


ข้อความ เพื่อน.....ให้มุมมองที่แตกต่าง เพื่อนกันไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน เรามักเอาตัวเองวัดว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด กฏเกณฑ์ของสังคมก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าถูกหรือผิด เพราะมันเป็นการกำหนดเพื่อความสงบสุขของสังคม มีอีกหลายคนที่คิดไม่เหมือนเรา -และชีวิตคนเราก็เกิดมาไม่เหมือนกัน ถูกเลี้ยงมาต่างกัน สภาพแวดล้อมที่ต่างกัน หน้าตายังต่างกัน จะให้คิดเหมือนกันได้ยังไง... เวลาใครทะเลาะกับใครหรือเพื่อนนั่งเถึยงกัน......เราก็มักจะ เข้าไปเป็นคนกลางห้ามมวย.... พร้อมด้วยคำชี้แจงว่า........

เพื่อน คือ
1.ธนาคารที่เบิกได้ ถอนได้ตลอดเวลา
2.เป็นห้องสสุขาเคลื่อนที่ (ระบายอารมณ์)
3.เป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน
4.บางครั้งเป็นเบ๊รับใช้
5.เป็น สถานที่ที่เราใช้เวิร์บ ทู เดา ทำข้อสอบร่วมกัน
6.แล้วก็ใช้เวิร์บ ทู โดน (อ.ดุ) ด้วยกัน
7.โรงทาน (เฮ้ย..มึงเลี้ยงนะ)
8.ซุปเบอร์ฮีโร่ (ที่มักจะมาในเวลาคับขัน)

แต่สำหรับกระผมแล้ว ที่อ้างมานี้ยังไม่หมด คำบางคำไม่จำเป็นต้อง
บอก คำที่ดีสุดซึ้งที่สุดก็คือคำๆที่กำลังจะพูดออกมา... (ผมเชื่ออย่างนั้นนะ)รักเพื่อนด้วยใจ ....
ศ.สาลา

อ้างอิงจาก: http://board.dserver.org/m/mor2class8/00000521.html

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

เว็ปบริการเซ็คความเร็วเน็ตฟรี..

http://www.downloaddoo.com/testspeed/index-aspx.html (คลิก)

http://www.downloaddoo.com/PageSize-15-TotalPage-56-Count-831-Page-5-Default.aspx (ของฟรีก็มีในโลก โหลดง่าย..)



วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

Google กำหนดวันหันหลังถอนตัวจากจีนแล้ว



G
oogle
พร้อมถอนธุรกิจและบริการทั้งหมดจากประเทศจีนภายในเดือนหน้า...สำนักข่าว China Business News ได้มีรายงานพิเศษเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งระหว่าง Google และรัฐบาลจีนพร้อมระบุว่าทาง Google ได้กำหนดวันหันหลังถอนทุกอย่างจากประเทศจีนไว้แล้วภายในเดือนเมษาที่จะมาถึง นี้ โดยในเรื่องนี้ทางผู้สื่อข่าวได้รับรู้ข้อมูลมาจากแหล่งข่าวภายในของ Google ว่าทาง Google กำลังเตรียมพร้อมที่จะถอนบริการและเครือข่ายธุรกิจทั้งหมดของตนที่เกี่ยวข้อ กับประเทศจีนภายในวันที่ 10 เมษายนที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทาง Google แต่ทางทีมผู้บริการพร้อมที่จะประกาศจุดยืนในวันที่ 22 มีนาคมตามเวลาของประเทศจีนในเรื่องเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกครั้ง.
ที่มา:www.pantip.com/tech/newscols/news/220310b.shtml


http://thai.cri.cn/247/2010/03/19/232s172902.htm
ตั้งแต่ต้นปี 2010 เป็นต้นมา Google ซึ่งเป็นบริษัทเสิร์ซเอนจิ้นค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต (search engine) ของสหรัฐฯ ได้ประกาศต่อภายนอกหลายครั้งว่าจะถอนตัวออกจากตลาดจีน ทำให้สื่อมวลชนทั่วโลกเกิดความสนใจอย่างมาก สื่อมวลชนตะวันตกหลาย ๆ แห่งกล่าวหาว่า ระบบตรวจสอบอินเตอร์เน็ตของจีนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กระทั่งประณามว่ากรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง "ท่าทียโส"ของจีน สำหรับเรื่องนี้ นักวิชาการจีนเห็นว่า กรณีบริษัท Google ถอนออกจากตลาดจีนเป็นการสร้างข่าวทางพาณิชย์โดยสิ้นเชิง หากไม่ใช่เหตุการณ์ทางการเมือง

เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา บริษัท Google ประกาศจะถอนออกจากจีน สาเหตุคือระบบตรวจสอบอินเตอร์เน็ตของจีน ตลอดจนถูกการโจมตีจากแฮกเกอร์จีน เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารชั้นสูงของบริษัท Google ประกาศอีกครั้งว่า จะไม่ดำเดินการตรวจสอบต่อเนื้อหาการค้นหาตามกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของจีน อีกแล้ว ถึงแม้ว่าการตัดสินเช่นนี้อาจจะทำให้หน้าเว็ขค้นหาภาษาจีนถูกปิด และต้องออกจากตลาดจีนก็ตาม

เรื่องนี้ทำให้ทั่วโลกเกิดความสนใจอย่างกว้างขวาง กระทั่งเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

ดร.จูเฟิงจากสถาบันวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัย ปักกิ่งได้ให้ความสนใจและติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด เขาเห็นว่า กรณีบริษัท Google ถอนออกจากตลาดจีนเป็นการสร้างข่าวทางพาณิชย์โดยสิ้นเชิง เขากล่าว่า

"ระบบตรวจสอบอินเตอร์เน็ตของรัฐบาลจีนไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา กับบริษัท Google ดังกล่าว เพราะระบบตรวจสอบอินเตอร์เน็ตของจีนไม่ใช่เจาะจงต่อบริษัท Google โดยตรง แต่เป็นระบบบริหารและตรวจสอบอินเตอร์เน็ตภายในทั่วประเทศจีน บริษัท Google วางแผนสร้างข่าวทางพาณิชย์ด้วยการต่อต้านรัฐบาลจีนโดยเจตนา เพื่อดึงดูดความสนใจจากชาวโลกมากยิ่งขึ้น ขยายภาพลักษณ์และผลประโยชน์ทางการค้าของบริษัท"

นายจูเฟิงกล่าวว่า บริษัททุนต่างชาติต้องดำเนินงานบนพื้นฐานกฎข้อบังคับของประเทศที่ตนเองอาศัย อยู่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้กันทั่วโลก นอกจากนี้้ ระบบตรวจสอบอินเตอร์เน็ตไม่ใช่มีในจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น หลายประเทศในโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีระบบตรวจสอบที่เข้มงวดเช่นกัน

เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา นายฉินกังโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ถ้าหากบริษัท Google ถอนออกจากจีน จะเป็นเพียงการกระทำของแต่ละบริษัทเท่านั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการลงทุนโดยรวมของจีน และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพความจริงที่วิสาหกิจต่างชาติ รวมถึงวิสาหกิจสหรัฐฯ ในจีนส่วนใหญ่กำลังสร้างผลกำไรมากมายอย่างต่อเนื่อง

สถิติปรากฏว่า จีนเป็นประเทศที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากที่สุดของโลก มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประจำประมาณ 400 ล้านคน และมีผู้ใ้ช้เพิ่มใหม่ 250,000 คนต่อวัน นายจูเฟงกล่าวว่า ตลาดจีนที่กว้างใหญ่เป็นที่มองข้ามไม่ได้สำหรับธุรกิจอินเตอร์เน็ต ถ้าหากบริษัท Google ถอนออกจากจีน จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แต่จะเป็นความเสียหายใหญ่หลวงสำหรับบริษัท Google การสร้างข่าวทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางพาณิชย์ของบริษัท Google จะไม่ได้ผลใด ๆ.

update:25/03/53

ซำบาย ดี

วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

เล็กพริกขี้หนู ZOTAC ION ITX A-E : UPDATE




ZOTAC ION ITX A-E (with integrated Atom 2x 1.6Ghz CPU, Onboard PSU, WLAN) [FANLESS]


Experience fluid and vivid high-definition video playback with the ultra-compact ZOTAC ® ION platform. The mini-ITX form factor ZOTAC ® ION combines a high-performance NVIDIA ® ION graphics processor with a power-efficient Intel ® Atom processor for the ultimate eco-friendly platform that has no troubles handling regular web browsing, e-mail, productivity and HD video playback tasks.

NVIDIA ® PureVideo HD technology harnesses the power of the ION's™ 16 high-speed stream processors for high-definition Blu-ray playback capabilities. PureVideo HD technology decodes HD video formats and enhances standard-definition videos with the ION GPU for flawless HD and superior SD video playback.



Model Zotac IONITX-A-E
Type Mini-ITX Mainboard
CPU Intel Atom N330 (Dual Core), FSB 533Mhz / NVIDIA MCP7A-ION Chipsatz
Graphics NVIDIA ION Graphics GPU
GPU : 450Mhz, Shader : 1100Mhz16 stream processors
DirectX 10 / Open GL 2.1
RAM 2x DDR2 667/800 RAM (4GB max)
Dual Channel DDR2
Power Power supply onboard
Connectors (external) - 6x USB 2.0
- 1x PS/2 (Keyboard)
- 1x HDMI
- 1x SPDIF out (Coaxial/Optical)
- 1x DVI
- 1x eSATA
- Audio
- 1x LAN 10/100/1000 MBit
- 1x VGA
- 1x WLAN antenna
SATA 3x SATA (RAID 0, 1 und 0+1)
Connectors (internal) - 1x MiniPCIe (used by included WLAN module)
- 4x USB 2.0
- 3x SATA
- 1x Serial
- 1x DC-Out
Scope of supply - Zotac IONITX-A-E
- I/O ATX rear plate
- 3x SATA cable
- 1x SATA Power cable
- WLAN module + antenna
- AC/DC Adapter 19V (90W)
- optional fan
- Quickstart-Guide
- Drivers CD
Dimensions 17cm x 17cm

:162.80 EUR หรือประมาณ
7 102.14408 บาท

(มีต่อ)

ฟังเพลงเย็นๆ กับ ศ.

ผู้ติดตาม

ฟังเพลงเย็นๆครับผม